ขอสอบถามอาจารย์ครับ

 มีข้าราชการครู มากู้ยืมเงินแม่ผม (แม่เป็นข้าราชการเหมือนกัน)  แม่ผมให้ยืมเงิน

โดยไม่มีดอกเบี้ย เนื่องจากความสงสาร โดยทำสัญญากู้ยืมเงินไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

ต่อมาครบกำหนดสัญญาลูกหนี้จ่ายเงินมาบางส่วน ส่วนที่เหลือแม่ของผมได้

ทวงถามมาตลอด บอกจะคืนวันนั้นวันนี้แต่พอถึงวันจริงๆ ก็บอกไม่มี

 แล้วก็ผลัดไปอีก แต่ตัวลูกหนี้เองมีเงินไปออกรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ใหม่ 

คือ "มีเงินแต่ไม่จ่าย" แต่บอกว่าตัวเองไม่มี ปัจจุบันก็ผ่านมา 4-5 ปีแล้วครับทวงตลอด

(ที่ผ่านมาแม่ผมไม่อยากทำอะไร เนื่องจากเป็นข้าราชการเหมือนกัน อีกอย่างจำนวนเงินไม่ได้เยอะเท่าไร (หลักหมื่น) กลัวจะได้ไม่คุ้มเสีย)

--- ถึงตอนนี้ผมเองอยากจะฟ้องศาลและร้องเรียนวินัยข้าราชการหรือจรรยาบรรณ
วิชาชีพครู  กับลูกหนี้คนนี้ (ซึ่งมารู้ทีหลังว่า ลูกหนี้คนนี้ก็ไปยืมเงินข้าราชการคนอื่นๆ แล้วไม่คืนเหมือนกรณีแม่ผมเหมือนกัน) ถึงตอนนี้เรื่องเงินกู้ไม่ใช่้ประเด็น แต่ผมอยากดัดนิสัยครูคนนี้ ด้วยการดำเนินคดีมากกว่า ผมขอถามอาจารย์ดังนี้ครับ

   1. การที่จะร้องเรียนวินัยข้าราชการ ไปยังผู้บังคับบัญชาของลูกหนี้ สามารถใช้หลักฐานสัญญากู้เงินอย่างเดียวได้หรือป่าวคับ หรือต้องฟ้องศาลก่อน 

    2. วินัยข้าราชการ หรือ จรรยาบรรณวิชาชีพครู  สามารถใช้ข้อไหนอ้างกับกรณีนี้ได้บ้างครับ

    3.ขั้นตอนการฟ้องศาล  กรณีนี้ต้องทำอย่างไรบ้างครับ

    4.กรณีนี้ อาจารย์พอมีคำแนะนำอื่นๆไหมครับ  ผมอยากเล่นตามกฏหมาย แต่เล่นให้หนักครับ

1. การกู้ยืมเงินเป็นเรื่องทางแพ่งระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้ ไปร้องเรียนเขา เดี๋ยวเขาฟ้องหมิ่นประมาทเอาได้

2. การเป็นหนี้ยังไม่เป็นผิดวินัย เว้นแต่จะเป็นหนี้ล้นพ้นตัวจนถูกฟ้องล้มละลายก็จะขาดคุณสมบัติที่จะเป็นข้าราชการ

3. ถ้าหนี้เป็นเรือนหมื่น ก็คงไม่คุ้มกับการฟ้อง แต่ถ้าเขามีเจ้าหนี้หลายราย ก็ลองคุย ๆ กับเจ้าหนี้อื่น แล้วฟ้องร่วมกันก็อาจอาศัยทนายความคนเดียวกัน อาจจะคุ้ม

4. ตัดหนี้เป็นสูญ แล้วจำไว้เป็นบทเรียนว่า เมื่อใดที่จะให้คนยืมเงินเพราะเขาไม่พอใช้ ก็ให้ทำใจตัดหนี้เสีย หรือมิฉะนั้นก็ไม่ให้ เพราะคนที่มีรายได้ไม่พอใช้น่ะ ยังไง ๆ เขาก็ชำระหนี้คืนได้ยาก