คนดีในอุดมคตินั้นเป็นความปราถนาในทางนามธรรม แต่ในทางความเป็นจริง การเลือก "ผู้แทนฯ" ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นผู้แทน ใครมีนิสัยอย่างไร ชอบอะไร ก็ย่อมเลือกคนในทำนองนั้น คนที่ชอบต่อสู้รุนแรง เห็นใครต่อสู้รุนแรงก็ชอบใจและคิดว่าเป็นคนดีสมควรเป็นผู้แทนตนได้ คนที่มีแนวโน้มในทางทุจริต เห็นคนที่หาเงินในทางทุจริตก็ย่อมเห็นว่าเป็นคนเก่ง ถ้ายิ่งเอามาแบ่งให้บ้างก็ยิ่งเห็นว่าเป็นคนดีมีน้ำใจ ก็ย่อมเรื่องคนที่มีลักษณะนั้นเป็นผู้แทนของตน คนที่ชอบหลบเลี่ยงงานการอยากได้แต่เงินเดือนแต่ไม่ชอบทำงาน เห็นใครหลบเลี่ยงงานได้เก่ง ก็ว่าเป็นคนดีเป็นที่ชื่นชอบ แล้วก็เลือกคนที่มีลักษณะอย่างนั้นเป็นผู้แทนของตัว คนที่อยากให้ผู้แทนม่าช่วยเหลืองานศพ งานบวช งานแต่ง งานกฐิน ผ้าป่า ใครที่มีนิสัยกุลีกุจอ ก็ย่อยชอบเห็นว่าเป็นคนดี แล้วก็เลือกคนนั้น ส่วนเลือกแล้วเขาจะไปประชุมหรือไม่ หรือจะเอะอะโวยวายในสภาอย่างไร ก็ไม่สนใจ เพราะได้คนดีตามทัศนะของตัวอยู่แล้ว ถ้าอยากรู้ว่าคนไทยโดยถัวเฉลี่ยเป็นอย่างไร ก็ดูพฤติกรรมของผู้แทนในสภาในภาพรวมก็จะรู้ได้ เพราะนั่นแหละคือผู้แทนของคนไทยโดยแท้ ถ้าเห็นว่าผู้แทนในสภามีคนดีในอุดมคติน้อย ก็แปลว่าคนไทยที่มีลักษณะดีอย่างนั้นมีจำนวนน้อย จึงเลือกมาได้เท่านั้นแหละ