มีผู้อ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ สว.เป็นหน้าที่ของ สส. ภายใต้การตรวจสอบของสว.ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดมอบหมาย
เมื่อมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากลับบอกว่าทำไม่ได้ เพราะทำเพื่อประโยชน์ผู้ขอและเห็นชอบในการแก้ โดยมติ ๕ ต่อ ๔ นั่นคือเห็นว่าไม่ถูกต้องทำไม่ได้ ๕ เสียง เห็นว่าทำถูกต้องสามารถทำได้ เสียง
ต่อมามีผู้ร้องขอถอดถอน สส.,สว. ทั้ง ๓๑๒ คน เพราะทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าตัดสินให้ถอดถอนตามร้อง หากจะมีผู้ร้องให้ถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย ๔ คนด้วย เพราะเห็นผิดตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นตุลาการอีกต่อไปไม่ได้ เหมือน สส.สว. ที่แก้แล้วผิด จะทำด้หรือไม่อย่าไร แล้วหลักสากล majority rule ,minority right ไปอยู่ไหน หรือว่านี่ประเทศไทย ทำอะไรก็ได้
ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยน่ะไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจ ดูเหมือนศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยเลยว่าการลงคะแนนในทางใดของ สส.หรือ สว. เป็นความผิด การที่ใครจะลงคะแนนหรือออกเสียงอย่างใดนั้น เป็นสิทธิของแต่ละคน ตราบใดที่ไม่ได้รับเงินรับทอง หรือรับคำสั่งใครให้มาลงคะแนน จะออกความเห็นในทางใดก็ไม่เป็นความผิด (เว้นแต่เป็นการออกความเห็นที่ไปกระทบกระเทือนคนอื่น เช่น ไปหมิ่นประมาทคนอื่นเข้า) ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องร่างรัฐธรรมนูญว่าใช้ไม่ได้ เพราะมีการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ เช่น ใช้ร่างคนละร่างกับที่เสนอไว้แต่แรก เหมือนกับเวลาคุณทำสัญญากู้เงินเขามาห้าหมื่นบาท ถึงเวลาเจ้าหนี้เอาอีกฉบับหนึ่งที่ระบุว่าคุณกู้หนี้ไปห้าล้านบาทไปฟ้อง คุณคงนึกออกว่าคนไปทำอย่างนั้นควรจะผิดหรือไม่ หรือมีการใช้บัตรลงคะแนนแทนคนอื่น ซึ่งมีผลเท่ากับคนเดียวลงคะแนนหลายคะแนน ซึ่งเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ทำผิดกัน
อนึ่ง ที่บอกว่าเสียงข้างน้อยของศาลรัฐธรรมนูญ ๔เสียง เห็นว่า สส. สว.ทำถูกต้องนั้น อาจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ดูเหมือน ๒ คนใน ๔ คนนั้น เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจพิจารณา อีก ๒ คนเห็นว่ามีอำนาจพิจารณา แต่เห็นว่าไม่ผิด
ข้อมูลต่าง ๆ นั้น อย่าเพียงแต่ฟังแล้วสรุป ถ้าไม่แน่ใจควรตรวจสอบเสียให้ถูกต้องก่อน บางทีความหงุดหงิดก็จะน้อยลง