กล่าวคือเมื่อวันที่ 25/04/48 ข้าพเจ้าไปโอนขายที่ดินให้กับหมู่บ้านจัดสรรตามสัญญาซื้อขายที่ทำกันไว้ จนท.ที่ดินแจ้งให้ทราบว่าข้าพเจ้าถือโฉนดปลอมทำการซื้อขายที่ดินไม่ได้ ซึ่งข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนหน้านี้เลยว่าถือโฉนดปลอมไว้ จนท.ช่วยตรวจสอบจากคู่ฉบับของสำนักงานที่ดินไม่พบรายการทำนิติกรรมใดๆ และได้แนะนำให้ไปแจ้งความตำรวจเพื่อนำหลักฐานมาขอออกโฉนดแทนใหม่ ต่อมาเมื่อ 26/04/48 หลัง 1 วันมีผู้มาขอตรวจสอบที่ดินแปลงนี้โดยนำโฉนดต้นฉบับจริงของข้าพเจ้าที่หายไปมาด้วยอ้างว่าได้ทำสัญญาจำนองเป็นประกันเงินกู้จำนวน 6.0 ล้านบาทกับข้าพเจ้าไว้ โดยมีสัญญาเงินกู้ยืม,สัญญาจำนอง,สำเนาบัตรประชาชน,สำเนาทำเบียนบ้านที่ลงลายมือชื่อกำกับ จากการตรวจสอบกับสนง.ที่ดินและทางตำรวจพบว่านิติกรรมต่างๆไม่ได้ทำกับสนง.ที่ดินและเป็นเอกสารปลอมทั้งสิ้น ซึ่งผู้อ้างก็ยอมรับว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จริงและไม่ได้ทำนิตติกรรมสัญญาใดๆกับผู้อ้างเลย แต่ตอมาเมื่อข้าพเจ้าจะยื่นคำขอออกโฉนดแทนใหม่เพื่อซื้อขายให้กับหมู่บ้านตามปกติ ทางผู้อ้างกับแจ้งอายัดที่ดินของข้าพเจ้าแปลงนี้ ทำให้กระทำนิติกรรมใดๆไม่ได้เกิดความเสียหายขึ้นมา จึงขอเรียนถามท่านดังนี้.-
1. ผู้อ้างสามารถอายัดที่ดินของข้าพเจ้าได้หรือไม่
2. หากอายัดได้ ข้าพเจ้าก็จะทำนิติกรรมขายที่ดินให้กับหมู่บ้านไม่ได้ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่โอนขายที่ดินแปลงนี้ให้กับเขา ทางหมู่บ้านจะฟ้องร้องบังคับคดีเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ อนึ่งทางหมู่บ้านฯเข้าไปดำเนินการถมดิน,ก่อสร้างอาคารเองก่อนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากข้าพเจ้า
3. นิติกรรมที่ผู้อ้างทำถูกปลอมแปลงขึ้นทั้งสิ้น และไม่ได้ผ่านกระบวนการของสำนักงานที่ดินเลย และข้าพเจ้าก็ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างไร ผู้อ้างจะฟ้องบังคับคดีเรียกค่าเสียหายจากข้าพเจ้าได้หรือไม่
จึงขอเรียนถามด้วยความเคารพและขอขอบพระคุณล่วงหน้า ปัจจุบันวิตกกังวลมาก
จากเป้า
1. เขาอายัดไว้แล้วไม่ใช่หรือ จะสงสัยอยู่ทำไมอีกล่ะ สิ่งที่ควรสงสัยคือทำอย่างไรจึงจะขายที่ดินแปลงนี้ได้
2.-3. การที่คุณโอนขายที่ดินแปลงนี้ไม่ได้เพราะมีคนอื่นปลอมแปลงเอกสาร (ถ้าคุณไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย)
เขาก็เรียกค่าเสียหายอะไรจากคุณไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความผิดของคุณ
สิ่งที่คุณควรทำก็คือรีบไปฟ้องคนปลอมแปลงเอกสาร และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการอายัดเสีย