เรียน อ.มีชัยฯ ที่เคารพอย่างสูง
กระผมมีข้อคำถามที่ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้ครับ เป็นกรณีที่มีผู้ต้องหาไปกระทำการฉ้อโกงทรัพย์จากผู้เสียหายได้เช็คเงินสดมาจำนวนหลายสิบล้านบาท แล้วนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารนำเป็นของตนเอง ต่อมาผู้ต้องหาได้มอบเงินให้กับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีความสนิทสนมกัน และเป็นการให้โดยเสน่หา หรือเป็นการให้ยืมก่อนแล้วผ่อนคืนภายหลังโดยไม่มีดอกเบี้ย และไม่ได้มีการทำสัญญากันแต่อย่างใด รวมเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท (ผู้ต้องหามีฐานะดี ได้รับมรดกจากครอบครัว และเพื่อนผู้ต้องหาเคยให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อผู้ต้องหาในยามเดือดร้อนมาก่อน แต่ไม่ใช่เงินจำนวนมาก ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความประทับใจและตอบแทนด้วยการช่วยเหลือด้านการเงินดังกล่าว) ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าหลังจากฉ้อโกงได้เงินมาแล้ว เคยนำเงินไปให้กับเพื่อนคนดังกล่าวส่วนหนึ่งด้วย และมีหลักฐานปรากฎว่าได้มีการโอนเงินทางธนาคารให้กับเพื่อนดังกล่าวจริงหลายครั้ง พนักงานสอบสวนจึงขอศาลออกหมายจับเพื่อนดังกล่าวในข้อหารับของโจร ซึ่งต่อมาเพื่อนผู้ต้องหาดังกล่าวได้เข้ามอบตัวและได้ประกันตัวไป พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาและเพื่อนของผู้ต้องหาด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล กระผมจึงขอทราบว่า การที่เพื่อนผู้ต้องหาได้รับเงินดังกล่าวเข้าข่ายในความผิดรับของโจรหรือไม่
ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง
เรียน คุณยงยุทธ
การที่จะเป็นความผิดฐานรับของโจรได้ ผู้รับของโจรต้องรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ ก็ไม่ผิด ไปหาพยานนำสืบตามข้ออ้างของคุณให้ดี ๆ เถิดจะได้ไม่ต้องรับโทษ