เกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน
เรียนอาจารย์มีชัยที่นับถือ
ดิฉันมีปัญหาดังนี้ค่ะ คือดิฉันมีบ้านอยู่ 1 หลังเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 51 ตรว และยังเป็นหนี้ ธอส อยู่ประมาณ 1 ล้านบาทและตอนนี้ดิฉันมีปัญหาต้องนำเงินมาใช้หนี้ ก็เลยประกาศขายบ้าน ในราคา
1.6 ล้านบาท ก็มีคนมาสนใจทำสัญญาจะซื้อจะขาย โดยมีข้อแม้ในการทำสัญญา เขาจะซื้อในราคา
ที่ดิฉันต้องการ แต่ขอเวลาปรับปรุงบ้านของดิฉันเป็นเวลา 4 เดือน คือทำสัญญาโดยวางเงิน 20,000
บาท เป็นเงินมัดจำซึ่งดิฉันก้เห็นว่า เขาอยากจะซื้อจริง ๆ และให้ราคาที่ดิฉันพอใจ ก็เลย ok โดยใน
สัญญาเขียนดังนี้ ว่าผู้จะขายยอมให้ผู้จะซื้อเข้าไปตกแต่งปรับปรุงบ้านได้โดยมิขัดข้อง และจะโอนกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินภายในเดือนพฤศจิกายน 2548 แต่ถ้าหากว่าผู้จะซื้อไม่สามารถโอนกรรม
สิทธ์ในระยะเวลา 4 เดือนได้ก็จะขอยืดระยะเวลาออกไปได้อีก 60 วัน โดยจะเสียค่าปรับให้ 20,000 บาท ในขณะเดียวกันถ้าผู้จะขายผิดสัญญาไม่สามารถไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียน
ตามกำหนด ผู้จะขายยอมให้ผู้จะซื้อฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญา และยอมใช้ค่าเสียหายให้
แก่ผู้จะซื้ออีก 60,000 บาท ด้วย เท่าที่อาจารย์ได้อ่านอาจารย์รู้สึกเหมือนคนอื่นไหมคะว่าดิฉันถูก
สัญญาเอาเปรียบมาก ๆ เลย เพราะดิฉันต้องการเงินไปชำระหนี้สิน แต่ดิฉันต้องรอ 4 - 6 เดือน
ดิฉันอยากให้อาจารย์แนะนำ หรือหาทางออกให้ดิฉัน เกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้ ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่
31 กรกฎาคม 2548 และวันนี้หนูได้เข้าไปดูที่บ้าน ปรากฏว่ายังมิได้มีการตกแต่งปรับปรุงใด ๆ
ทั้งสิ้นซึ่งหนูเกรงว่า จะทำไม่เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ซึ่งดิฉันต้องใช้เงินชำระหนี้
แต่บริเวณรอบบ้านกลับรกไปด้วยไม้ คล้ายกับจะทำ แต่ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ที่บ่งบอกว่าจะทำการ
ปรับปรุงเลย แถมน้ำไฟยังถูกตัด ถูกยกหม้อไปอีกต่างหากค่ะ ดิฉันรู้สึกเสียใจมากด้วยความ
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในตอนทำสัญญาฉบับนี้ และที่สำคัญที่หน้าบ้านดิฉันได้ติดป้ายขายบ้านของ
ดิฉันโดยใส่เบอร์โทรศัพท์ของคนอื่นอีกทีนึง การกระทำอันนี้ถูกต้องหรือไม่คะ และดิฉันจะขอ
ยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ และในการทำสัญญาจะซื้อจะขายต้องมีกำหนดเวลาเท่าไหร่คะ ช่วย
แนะนำหนูด้วยนะคะว่าหนูจะทำอะไรได้บ้างกับสัญญาฉบับนี้ กับคนเหล่านี้ เพราะหนูกลัวขึ้นโรง
ขึ้นศาลมากเลยค่ะ
และดิฉันก็มีเรื่องสัญญากู้เงินอีก 1 ฉบับ ที่เกี่ยวเนื่องกับบ้านหลังนี้ค่ะ คือหลังจากทำสัญญาจะซื้อ
จะขายได้ 1 เดือน ดิฉันก็เดือดร้อนต้องใช้เงิน 1 แสนบาท ก็เลยคิดว่าจะขอเป็นเงินมัดจำเพิ่มจาก
คนซื้อ เพราะคิดว่าอย่างไรซะเขาก็ต้องซื้อแน่ แต่เขาบอกว่าเขาไม่มีเงิน แต่เขาจะหาให้ร้อยละ
10 บาท ดิฉันก็ ok เพราะไม่มีทางเลือก ซึ่งต้องใช้เงิน ก็เลยทำสัญญาขึ้น 1 ฉบับ เป็นสัญญาก็ยืม
เงิน โดยมีข้อความว่า ผู้กู้ได้กู้ยืมเงินไปเป็นจำนวนเงิน 130,000 บาท (เงินต้น 100,000 + ดอกเบี้ย
3 เดือน 30,000) แต่ไม่ได้ระบุดอกเบี้ย แต่ในสัญญาระบุว่า จะยอมชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 20 ของ
ทุกเดือน กำหนดคืนเงิน 20 พฤศจิกายน 2548 โดยระบุหลักฐานในการกู้เงินเป็นโฉนดบ้านที่ดิฉันจะขาย แต่ติดจำนองอยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์
สำหรับสัญญาจะซื้อจะขาย มีผู้เซ้นเป็นพยานเป็นพ่อของดิฉัน และภรรยาของผู้จะซื้อ ส่วนสามีดิฉันเซ้นมาก่อนที่จะเขียนสัญญา ส่วนสัญญากู้เงินมีพยานคือภรรยาของผู้จะซื้อคนเดียว ซึ่งสามี
ดิฉันก็ไม่ทราบด้วยว่าดิฉันทำแบบนี้ค่ะ ดิฉันทุกข์ใจมากเลยค่ะ กลัวทุกอย่าง ขอกราบรบกวน
อาจารย์ช่วยชี้แนะ แนะนำให้ดิฉันมีวิธีต่อสู้ต่อรองด้วยเถอะค่ะ จะขอบพระคุณมากค่ะ
ชัฎภัสสร
|