สวัสดีค่ะ ดิฉันขอความกรุณาในการสอบถามข้อมูลหน่อยนะค่ะเนื่องจากดิฉันถูกแจ้งความในข้อหา "บุกรุก"ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันเคยทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง และทำการลาออกตั้งแต่ 13มิ.ย. 48และด้วยเหตุที่ว่าต้องการพบกับเจ้านายเก่า( ซึ่งเป็นmarketing director ณ ขณะนั้น )ซึ่งดิฉันได้เข้าพบในวันเสาร์ 18 มิ.ย.48ซึ่งเป็นวันที่บริษัทปิดทำการต้องการเข้าไปพบ กับ marketing director ท่านนั้นในเวลา15.00 น.(เนื่องจากวันนั้นเจ้านายท่านนี้จะเข้าไปทำธุระในบริษัทจึงได้มีการนัดหมายดิฉันเข้าพบในบริษัทที่ดิฉันได้ลาออกมาแล้ว) และในวันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์ 19 มิ.ย0 48ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรเข้ามาหาและแจ้งข้อหาให้ทราบว่าดิฉันได้ทำการ"บุกรุก"บริษัท ร่วมกับ marketing directorเมื่อวานนี้ และ marketing director ท่านนั้นก็ถูกปลดจากการเป็นพนักงาน ในวันนั้น โดยมีการติดประกาศวันทั้งหน้าบริษัทและหน้าตึก ว่า marketing directorท่านนี้ทำการบุกรุกบริษัท พร้อมกับดิฉัน โดยผู้ที่แจ้งความนั้น คือ กรรมการผู้จัดการบริษัท จากนั้นในวันที่ 29 มิ.ย. 48 ดิฉันพร้อม marketingdirector ท่านนี้ เข้าให้การสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนที่จะส่งสำนวนให้กับทางอัยการ และในวันที่ 10 ม.ค. 49 นี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าพบ เพื่อเซ็นต์รับทราบสำนวนพร้อมกับส่งตัวให้กับทางอัยการ ดิฉันจึงต้องการทราบว่า1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป2. ดิฉันได้เข้าไปพบกับทาง marketing director ท่านนั้นด้วยเหตุที่ว่าท่านก็ยังคงเป็นพนักงานในบริษัทนั้น โดยเรียกให้เข้าพบได้ ในสถานที่ดังกล่าวโดยมีการแจ้งล่วงหน้ากับทางกรรมการผู้จัดการทางโทรศัพท์ว่าขอเข้าบริษัทในตอนบ่ายวันนั้นแต่มิได้แจ้งว่ามีการนัดหมายผู้ใดเข้ามาพบ แล้วดิฉันก็ถือว่ามีความผิดในข้อหา"บุกรุก" จริงหรือไม่?3. หากเรื่องนี้ถึงอัยการแล้วจากนั้นขั้นตอนในการดำเนินคดีจะเป็นเช่นไรค่ะ?4. ดิฉันจะสามารถพ้นจากคดีความนี้ได้อย่างไรค่ะ?ขอบพระคุณค่ะ
หญิง
1. คุณควรหาทนายความเตรียมไว้สู้คดี เพื่อว่าเวลาไปพบตำรวจหรืออัยการเขาจะได้ไปด้วยจะได้ไม่ไปทำอะไรให้เป็นที่เสียหายแก่คดีของคุณ
2. ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างที่คุณเล่ามา คุณก็ไม่มีความผิดฐานบุกรุก
3. ถ้าอัยการเห็นว่าสำนวนที่ตำรวจสอบมาคดีมีมูลที่จะฟ้องได้ ก็จะยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งคุณก็จะต้องเตรียมหาหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว
4. ก็ต้องสู้คดี