ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    012454 การแก้ไขปัญหาการทุจริตในบริษัทที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ( อ้างถึง ask 00341 / 00415 )Anurak J.22 พฤศจิกายน 2547

    คำถาม
    การแก้ไขปัญหาการทุจริตในบริษัทที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ( อ้างถึง ask 00341 / 00415 )
    กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ ผมได้เรียกประชุมกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 9 พย.ที่ผ่านมาและได้รายงานให้ทราบเรื่องของปัญหาการทุจริตและการแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานที่ทุจริตแล้ว แต่เนื่องจากบุพการีและกรรมการบริษัทบางท่านที่มีส่วนได้เสียกับการทุจริตได้ออกมาปกป้องอย่างชัดเจน โดยได้อธิบายให้กับกรรมการท่านอื่นเข้าใจว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว เมื่อไม่มีข้อสรุป ด้วยความเกรงใจและด้วยความเป็นผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อย กรรมการบริษัทท่านอื่นจึงได้แนะนำให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่เพื่อมาบริหารโรงแรมและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ( เนื่องจากกรรมการชุดนี้หมดวาระลงนานแล้วและไม่มีการเลือกกกรรมการชุดใหม่มาหลายปี ) ผมจึงได้ออกหนังมือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เดือนนี้ โดยมีวาระสำคัญอยู่ที่การเลือกกรรมการชุดใหม่ หลังจากที่ออกหนังสือเชิญแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งเป็นบุพการีของผมเองนั้นได้ออกหนังสือให้พนักงานที่ถูกกล่าวหากลับเข้ามาทำงานอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าการแก้ไขปัญหาการทุจริตคงจะทำได้ยากลำบากหากจะดันทุรังกลับผิดเป็นถูกและเอาเสียงมากลากไปเช่นนี้ และวันนี้บรรยากาศในบริษัทก็สับสนอลหม่านพอสมควร เนื่องจากไม่มีใครคาดว่าจะมีคำสั่งนำเอาพนักงานที่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าทุจริตกลับเข้ามาทำงานอีก ประเด็นของคำถามที่ใคร่รบกวนอาจารย์ในวันนี้ก็คือ 1. ผมควรที่จะทำอย่างไรไม่ให้การเลือกกรรมการชุดใหม่เป็นไปในแนวทางที่จะปิดบัง หมักหมมปัญหาต่อไป เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้บริษัทก็กลับเข้าสู่สภาพเดิมอีกและการแก้ไขปัญหาหนี้สินของโรงแรมผ่านการปรับโครงสร้างหนี้กับบสท.ก็จะเป็นความพยายามสูญเปล่า ซึ่งท้ายที่สุดผู้ที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบภาระหนี้สินของบริษัทในอนาคตอันไกล้ก็หนีไม่พ้นผมอีก 2. จะมีวิธีอย่างไรที่จะไม่อณุญาตให้พนักงานที่ได้รับการกล่าวหาและได้รับการปกป้องอย่างน่าเกลียดเช่นนี้กลับเข้ามาทำงานเหมือนทองไม่รู้ร้อน ทั้งๆที่ได้สูบเลือดเนื้อผู้ถือหุ้น และโกงพนักงานด้วยกันไปอย่างมากมายหมาศาลแล้ว หมายเหตุ : 1. ผู้ใหญ่ของผมถือหุ้นในนามส่วนตัวมากเป็นอันดับ 2 ( 32% ) 2. อันดับ 1 ได้แก่หจก. A ( 34% ) ซึ่งมีผู้ใหญ่และผมถือหุ้นจำนวน 3 แสนหุ้นและ 2 แสนหุ้น โดยมีผู้ใหญ่ของผมเป็นหุ้นส่วนผจก.แบบไม่จำกัดความรับผิดชอบ( ขอถามเพิ่มเติมตรงนี้ว่าจะขอแก้ไขเพิ่มหุ้นส่วนเข้ามาอีก 1 คน และหุ้นส่วนแบบไม่จำกัดเพิ่มชื่อผมเข้าไปเป็น 2 คน และทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าประชุมแทนเพื่อให้เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และทำการโหวตในแนวทางที่เหมาะสมได้หรือไม่ครับ? ) 3. ผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อยประกอบด้วยเครือญาติ บุคคลภายนอก จำนวนทั้งหมด 155 คน 4. ตามหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท การจะเปิดประชุมใหญ่ได้จะต้องมีผู้ถือหุ้นมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือ 31 คน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยครบ 5. หากผลการประชุมเป็นไปในแนวทางที่โหวตผมออกจากความเป็นกรรมการผู้จัดการเพื่อให้พ้นทาง ผมจะขออ้างเอาความยินยอมของบสท.เป็นที่พึ่งได้หรือไม่ว่าเป็นการเลือกกรรมการบริษัทโดยไม่สุจริต เนื่องจากบสท.มีระเบียบข้อหนึ่งว่าการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น โครงสร้างองค์กร การบริหารอำนาจจัดการจะต้องได้รับอนุญาตจากบสท.เป็นลายลักษ์อักษร และลูกหนี้ต้องปฏิบัติตามแผนฯด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบสท. 6. ผมยังมีหลักฐานการทุจริตอยู่ในมืออีกมาก เนื่องจากที่ผ่านมาได้นำไปแจ้งความไว้เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ผมสมควรที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มอีกหรือไม่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนาว่าการแก้ไขปัญหาการทุจริตจะต้องทำอย่างเป็นจริงจริง และไม่ผ่อนปรนโดยคิดว่าเป็นปัญหาภายในครอบครัว ได้โปรดกรุณาชี้แนะอีกครั้งครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูง
    คำตอบ
    เรียน Anurak ปัญหาของคุณดูไปจะไม่ใช่ปัญหาว่าจะทำอย่างไรในทางกฎหมาย หากแต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้ญาติผู้ใหญ่ของคุณรักและห่วงใยคุณยิ่งกว่าข้าเก่าเต่าเลี้ยง บางทีการหาทางทำความเข้าใจ หรือสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น อาจจะเกิดผลกว่าช่องทางทางกฎหมาย เพราะเมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่สนใจในความทุจริต ถึงขนาดออกรับเสียเองเช่นนี้ ย่อมยากที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไร การดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรนั้น บางทีอาจจะต้องการรายละเอียดและดูเอกสารหลักฐานมากกว่าที่จะเล่าสู่กันฟังทางนี้ ถ้ายังอยากจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไปก็ขอแนะนำให้หาทนายความ เพื่อเขาจะได้ศึกษาเรื่องอย่างจริงจัง มีชัย ฤชุพันธุ์ 16 พ.ย. 2547
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    22 พฤศจิกายน 2547