เรียน อาจารย์มีชัย

ดิฉันเป็นพนักงานบริษัทเอกชน บริษัทหนึ่ง ถูกบริษัทบอกเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ในวันที่ 30 กย. 2550 เวลา 18.00 น. ด้วยวาจา และ แจ้งให้ไม่ต้องมาทำงานอีกในวันถัดมา

ต่อมาดิฉันได้ติดตามทวงถามเงินค่าชดเชย ในที่สุดบริษัทยอมจ่ายเงินค่าชดเชยให้ตามกฏหมายแรงงานเป็นจำนวน 4 เดือนในวันที่ 14กย. 2550 ดิฉันได้เข้าไปรับเงิน และได้คืนทรัพย์สิน ซึ่งได้ครอบครอบอยู่ขณะเป็นพนักงานทั้งหมดคืนให้กับฝ่ายบุคคลของบริษัท ฝ่ายบุคคลได้รับคืน แต่ไม่ได้ทำเอกสารการรับคืนให้กับดิฉัน

ผ่านมาอีก 2 เดือน วันที่ 17 พย. บริษัทได้ให้ทนายความส่งจดหมายมาว่า ดิฉันไม่ได้คืนอุปกรณ์สำนักงานให้ โดยในจดหมายแจ้งว่า ตามที่ท่านได้ลาออกจากการเป็นพนักงานของบริษัท แต่ปรากฏว่าท่านไม่ได้ส่งมอบคืนอุปกรณ์สำนักงานที่ท่านนำไปใช้ในระหว่างการเป็นพนักงาน ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจ จึงขอให้ท่านส่งมอบอุปกรณ์สำนักงาน ที่อยู่ในการครอบครองของท่านทั้งหมดคืนแก่บริษัทภายใน 7 วัน มิฉะนั้นแล้วจะดำเนินคดีตามกฏหมาย

ซึ่งในจดหมายที่แจ้งมาไม่ได้มีการระบุหรือแจ้งรายการสิ่งของที่ต้องให้ส่งคืนมีเพียงข้อความที่แจ้งมาว่า ดิฉันไม่ได้คืนอุปกรณ์ให้ ทั้งๆที่ดิฉันได้ส่งคืนอุปกรณ์ทั้งหมดคืนกับฝ่ายบุคคลแล้ว และยังอ้างว่าดิฉันได้ลาออกทั้งที่ดิฉันถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้า

ในกรณีอย่างนี้ดิฉันควรจะต้องทำอย่างไรดีคะ และบริษัทจะแจ้งความดิฉันในข้อหาอะไรได้บ้าง

ดิฉันยังไม่เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งยังไม่ได้ไปรับคืนจากบริษัท เนื่องจากติดตามทวงถามไป แต่บริษัทก็อ้างว่ายังไม่ได้รับเช็คจากกองทุน บริษัทมีสิทธิ์จะอ้างว่าดิฉันทำงานผิดพลาด หรือส่งงานให้ไม่ครบ แล้วไม่จ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ดิฉันได้หรือไม่

พานทอง

เรียน คุณพานทอง

คุณควรไปตามหาพนักงานที่เขารับมอบของจากคุณ เพื่อให้เขาช่วยเป็นพยานให้ว่าคุณได้ส่งมอบคืนให้เขาแล้ว  แต่ในทางความเป็นจริงคงยากเหมือนกัน เพราะพนักงานคนนั้นคงถูกบริษัทบังคับให้ปฏิเสธ เพราะเป็นความเลินเล่อของคุณที่ส่งของให้เขาแล้วไม่ให้เขาลงชื่อรับของไป  สำหรับเรื่องที่เขาอ้างว่าคุณลาออกนั้น ในเบื้องต้นควรมีหนังสือไปแจ้งต่อสำนักงานทนายความนั้นว่า คุณไม่ได้ลาออก แต่บริษัทให้คุณออก และของนั้นได้ส่งให้แก่พนักงานของบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว  ไม่ควรนิ่งนอนใจ