ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049696 อำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาลพนักงานเทศบาล1 พฤศจิกายน 2556

    คำถาม
    อำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาล

    ขอสอบถามท่านอาจารย์มีชัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่่ของสภาเทศบาลและสมาชิกสภาเทศบาล  กล่าวคือ ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ห้ามมิให้สภาเทศบาลประชุมปรึกษาหารือในเรื่องนอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือเรื่องที่ฝ่าฝืนกฏหมาย หรือเรื่องการเมืองแห่งรัฐ

              และข้อ 68 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554

              สมาชิกสภาท้องถิ่นจะต้องอภิปรายเฉพาะเรื่องที่กำลังปรึกษากันอยู่เท่านั้น จะกล่าวข้อความช้ำหรือนอกประเด็นและจะใช้ถ้อยคำหยาบคาย ใส่ร้ายเสียดสีผู้ใดไม่ได้ หรือกล่าวถึงชื่อบุคคลใด ๆ เว้นแต่กรณีจำเป็น

               ห้ามไม่ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นนำเอกสารใด ๆ มาอ่านให้ที่ประชุมสภาท้องถิ่นฟัง เว้นแต่กรณีจำเป็นและห้ามไม่ให้นำวุัตถุใด ๆ เข้ามาแสดงในที่ประชุมสภาท้องถิ่นเว้นแต่ประธานสภาท้องถิ่นจะอนุญาต

                ได้แนบรายละเอียดรายงานการประชุม มาเพื่อประกอบการพิจารณาและวิเคราะห์ของท่านอาจารย์  โดยมีรายละเอียดตามข้อเท็จจริงดังนี้

    ระเบียบวาระที่    เรื่องอื่นๆ

    ประธานสภาเทศบาล

                       ขอบคุณมากครับ ก็ขอขอบคุณที่เปิดโอกาสให้มาทำหน้าที่ประธาน ณ ที่แห่งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณท่านสมาชิกที่มีการประชุมตั้งแต่เช้ามาเจอแต่บรรยากาศดี ๆ ขอบคุณมากครับ ก็หวังอย่างยิ่งว่านับแต่นี้ไปก็เจอแต่บรรยากาศดี ๆ ต่อไปด้วยครับ ขอบคุณมากครับ ระเบียบวาระที่ 4 เป็นเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเป็นระเบียบวาระที่ผมก็เคยบอกมาแล้วว่าเป็นสิ่งที่ท่านสมาชิกยินดี ดีใจกับญัตตินี้มาก ก็เพราะว่าต่างคนต่างก็ได้มีการสามารถใช้ญัตตินี้พูดเรื่องอื่น ๆ พูดเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนนะครับ เรื่องต่าง ๆ ก็ขอเชิญนะครับ ไม่ทราบว่ามีท่านผู้ใดบ้างที่จะพูดในญัตติอื่นๆ นี้ เชิญเลยครับ เชิญท่าน............ เชิญครับ

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผมนาย............... เป็นสมาชิกสภาเทศบาล กระผมได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน นั้นแสดงว่าผมได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านกระบวนการเลือกตั้งมา และได้รับรองเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เมื่อเข้ามาประชุมในเทศบาลแห่งนี้ ก็ได้รับการคัดเลือกจากเพื่อนสมาชิก ให้เป็นประธานสภาเทศบาล นั้นแสดงให้เห็นว่าตัวกระผมมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล และอีกตำแหน่งหนึ่ง เป็นประธานสภาเทศบาล เรื่องที่ผมที่อยากจะพูดถึง เรื่องของพนักงานเทศบาล ประพฤติปฏิบัติผิดวินัยและจริยธรรม ท่านประธานครับ ผมขออ่านเรื่องที่ผมจะร้องเรียน พนักงานเทศบาลประพฤติปฏิบัติผิดวินัยและจริยธรรม ผมบอกแล้วนะครับ ผมได้ผ่านจากการเลือกตั้งจากประชาชน มาเป็นสมาชิก นั้นก็ถือว่าเป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนแล้ว เมื่อเข้ามาทำหน้าที่เป็นสมาชิก ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกให้ผมเป็นประธานสภา ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีผมมี กระผมนาย............. ตำแหน่งประธานสภาเทศบาล ขอให้ท่านนายกเทศมนตรี ตั้งคณะกรรมการขึ้น ทำการสอบสวน เพื่อให้ได้ความเป็นจริงและยุติธรรม โดยมิชักช้ากับนาย.............. หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป  เพราะนาย.................. ได้แสดงพฤติกรรมไม่สุภาพเรียบร้อย ดูหมิ่น เหยียดหยามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนของประชาชนและเป็นประธานสภา ได้รับการเลือกตั้งและไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกสภาท้องถิ่นเทศบาล ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภา และมีคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดถูกต้องตามระเบียบ กฎกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2554  ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางการเมืองและมีอำนาจหน้าที่สำคัญ ๆ เช่น

    1.      ดำเนินกิจการของสภาท้องถิ่น ตามที่กรม กฎหมายกำหนด

    2.      เป็นประธานของที่ประชุมสภาท้องถิ่น เว้นแต่ในขณะที่เข้ากล่าวอภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านญัตติในที่ประชุมสภาท้องถิ่น

    3.      บังคับบัญชา รายงานในสภาท้องถิ่น   

    4.      รักษาความสงบเรียบร้อยสภาท้องถิ่น

    5.      เป็นผู้แทนสภาท้องถิ่นในกิจการภายนอก

    6.      อำนาจและหน้าที่อื่น ๆ ตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้

                       ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าข้าพเจ้านาย................ ตำแหน่ง ประธานสภาเทศบาล จึงขอปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของข้าพเจ้า เนื่องจากถูกนาย................ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป แสดงความไม่สุภาพเรียบร้อย ใช้วาจาดูหมิ่นเหยียดหยามข้าพเจ้า  ในระหว่างที่ผมได้มารับตำแหน่ง  ได้สองเดือน ผม   นาย.................................. ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภา ได้ปรึกษาหารือเรื่องกิจการของสภา อยู่ในห้องของประธานสภา และในวันนั้น ระหว่างที่ผมปรึกษางานอยู่นั้น มีรองนายกฯ ............... รองนายกเทศมนตรี และมีเพื่อนสมาชิกอีกหนึ่งท่านคือคุณ..........................   นั่งปรึกษางานอยู่ด้วย บุคคลดังกล่าว ได้พูดจาดูหมิ่น เหยียดหยามเกียรติและศักดิ์ศรีของกระผม ในระหว่างที่ปรึกษางานอยู่ในขณะนั้น ซึ่งได้ใช้คำพูดว่าทำไมคุณชอบทำอะไรผิดกฎหมาย ระเบียบ ว่าไปแล้วที่จริงพวกคุณไม่ใช่เป็นนายของผม ซึ่งคำพูดอย่างนี้ สมควรหรือไม่   ที่จะไม่พูดกันอย่างนี้ เพื่อนสมาชิกครับ ท่านประธานครับ ทุกท่านในนี้มีเกียรติกันทุกคน ตราบใดที่เป็นมนุษย์แล้วทุกคนต้องมีเกียรติ แล้วสิ่งที่ผมถืออยู่บนมือนี้ เป็นประกาศของคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัยครับ ซึ่งผมดูแล้ว เข้าข่ายผิดวินัย ทั้งแรกที่นาย............................. กล่าว ผมไม่ถือสาอะไร แต่แล้วนะครับ บุคคลดังกล่าวมิเลิก เพื่อนสมาชิกในห้องประชุมสภาแห่งนี้    นะครับ คงจำได้ เมื่อทุกท่านทราบว่าผมมีหน้าที่ บทบาท ต้องทำกิจการของสภา เพื่อนสมาชิกครับ มีโครงการอยู่ 2 โครงการ โครงการที่หนึ่ง นั้นคือโครงการเทศบาลพบปะประชาชนและอีกโครงการหนึ่ง ที่ไปศึกษาดูงานที่ต่างจังหวัด   ที่มีเพื่อนสมาชิกเดินทางไป นั้นคืองบประมาณ พ.ศ. 2556 ซึ่งเรากำลังทำงบประมาณกันในวันนั้น คือปลาย ปีงบประมาณพ.ศ. 2555 ซึ่งว่าไปแล้ว โครงการดังกล่าว ผมตั้งใจ ที่จะทำโครงการนี้ให้เป็นกิจการของสภา เช่น เทศบาลพบปะประชาชน ตั้งงบประมาณเอาไว้ ได้ศึกษาหารือ เพื่อให้สมาชิกของเราได้มีบทบาท มีหน้าที่ ไปพบปะประชาชน โดยปัจจุบันนี้ เทศบาล  เรามี 27 ชุมชน วางแผนไว้ว่าทุก ๆ ท่าน แต่ละเขตซึ่งมี 3 เขต จะได้ไปพบปะประชาชน ด้วยวิธีการต่าง ๆ การเข้าไปพบปะประชาชน เพื่อที่จะได้ปรึกษาว่าเราจะทำการอย่างไร แต่พอเวลาไปปรึกษา บุคคลดังกล่าวใช้คำพูดอย่างนี้ ที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่ ทำไมพวกคุณชอบทำอะไรผิดกฎหมาย ระเบียบ ว่าไปแล้วที่จริงพวกคุณไม่ใช่นายของผม คำพูดในลักษณะอย่างนี้ เป็นการพูดดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของประธานสภา และเมื่อครั้งประธานสภาได้ไปติดต่อประสานที่สำนักปลัดเรื่องกิจการสภา  โดยขอความร่วมมือให้จัดซื้อไวบอร์ด  เรื่องไวบอร์ดผมเคยขอเอาไว้เพื่อนสมาชิกทุกท่านย่อมรู้  คนอย่างผมก็เป็นนักการเมืองที่จริงเหมือนกันนะครับ  เมื่อผมขอครับ  ผมคงไม่ใจร้อนขอวันนี้  สัปดาห์แล้วผมก็ไปถาม  การจัดซื้อจัดจ้างมันมีระยะเวลาของมัน  แต่ปรากฏว่า    ไวบอร์ดจนวันนี้ก็ยังไม่มี  ก่อนที่จะถึงวันนี้ผมได้ไปติดต่อสำนักปลัดครับ  เมื่อเข้าไปแล้วไปถามติดต่อประสาน  เขาได้ซื้อแล้วครับ  แต่ผมไปติดต่อประสาน  เขาไม่บอกนะครับ  ก็ทำให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่างประธานซึ่งตัวกระผมเอง  ย้ำนะครับ  เกิดการเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยก  เข้าใจผิดนี่เป็นเรื่องจริง  เมื่อเข้าใจผิดเป็นไงครับ  ไม่ได้เอาไวบอร์ดออกมาให้ผม  ผมก็ออกจากสำนักงานปลัดเทศบาล  บุคคลดังกล่าวเรียกพนักงานให้เอาไวบอร์ดนี้ไปเก็บ  แล้วพูดว่าไง  รู้ไหมครับ  ทำให้ผมจะต้องอาบอายต่อหน้าพนักงาน  ลูกจ้าง  ให้เอาของไปเก็บ  เดี๋ยวคนบ้าจะมาอาลาวาด  นี่พนักงานคนหนึ่ง  ซี ๗  

    ประธานสภาเทศบาล

                       จะมีการประท้วงนะครับ  ท่านสามารถฯก่อนครับ  เชิญครับ          

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       ขออนุญาตครับ  กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ  กระผมนาย....................  สมาชิกสภาเทศบาล  ขออนุญาตขัดจังหวะผู้อภิปรายนิดหนึ่ง  ไม่ใช่เป็นการขัดให้เสียรูปแบบในการอภิปราย  เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการอภิปรายว่าขอให้ผู้อภิปรายหันหน้าไปยังท่านประธาน  เดียวจะเป็นการไปมองไปที่ผู้ถูกการพาดพิงและเป็นเรื่องที่เสีย  ขอขอบคุณครับ  ในฐานะเพื่อนรุ่นเดียวกัน  

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       มีใครจะประท้วงอีก  หรือว่าจะเสนอแนะอีก  นี่เป็นเอกลักษณ์ของผม  ลีลาของผม  ผมไม่เคยวางมาด  เพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ  ผมเคยบอกแล้วว่าทุกท่านมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี   แต่ผมตอนนี้ถูกกระทำครับ    ถ้าท่านโดนคำพูดเหล่านี้  อย่างนี้  ท่านจะรู้สึกอย่างไรบ้าง  หากท่านมาบอกผม  ผมก็ต้องฟ้องผู้บังคับบัญชาเขา  ผมย้ำแล้วนะครับว่า  ขอพูดอีกครั้งหนึ่งเลยนะครับว่าผมจะรับผิดชอบในเรื่องที่ผมพูด  เพราะสิ่งที่ผมพูด  ผมกำลังร้องเรียนอยู่ ต่อนะครับ นาย...................  ผู้นี้นะครับ ได้พูดติฉินนินทาประธานสภาเทศบาลลับหลังที่ห้องสำนักงานปลัดเทศบาลต่อหน้าเจ้าหน้าที่หลายคน ซึ่งเป็นพนักงานและลูกจ้าง หลังจากที่ประธานสภาได้ติดต่อประสานงาน ซึ่งออกจากห้องไป โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บอุปกรณ์ที่ประธานสภาติดต่อเอาไว้นั้นก็คือ  ไวท์บอร์ด โดยใช้คำพูดว่าให้เอาของไปเก็บเสีย เดียวคนบ้าจะมาอาลาวาดอีก ข้อสองครับ เมื่อครั้งประธานสภาเทศบาลได้เข้าติดต่อประสานงานจัดฝึกอบรมโครงการพัฒนาบุคลากรและทัศนศึกษาดูงานของเทศบาล เพื่อต้องการให้ดำเนินการระหว่างสมาชิกสภาเทศบาลและฝ่ายพนักงานเทศบาล และลูกจ้าง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ไม่ได้รับความอำนวยความสะดวก ทั้งในด้านข้อมูลรายละเอียด และการเดินทางไปทัศนศึกษาดูงานของโครงการก่อนจัดโครงการแต่กลับโยนภาระเรื่องการดำเนินการทั้งหมดให้ไปถามผู้บริหารเอาเอง ทั้ง ๆ ที่โครงการดังกล่าวขึ้นอยู่กับสำนักงานปลัดเทศบาลและเป็นโครงการที่ประธานสภาเป็นผู้คิดริเริ่มและก่อตั้งงบประมาณพ.ศ. 2556  เอาไว้ เพื่อวัตถุประสงค์พัฒนาด้านความรู้ประสบการณ์ให้แก่สมาชิกสภาเทศบาล  และพนักงานทุกคน  ท่านเข้าใจไหมครับ  2  โครงการดั่งที่ผมพูด  วันที่ท่านกับผมเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ๆ ซึ่งในวันนั้น เป็นปลายปีงบประมาณของ พ.ศ.2555  แล้วเรากำลังจะตั้งงบประมาณ พ.ศ. 2556  เมื่อผมเข้ามาทำหน้าที่  ผมก็อยากจะให้เพื่อนสมาชิกมีบทบาท มีหน้าที่  ได้พบปะประชาชน ได้ปรึกษากับท่านปลัดฯ  หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  ว่าจะทำอย่างไรให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นให้ได้  แล้วก็จัดตั้งงบประมาณตั้งเอาไว้  แล้วไงครับ  พอถึงระยะเวลาโครงการดังกล่าว  กลับโยนภาระให้แก่ผู้บริหาร  ให้สมาชิกไปสอบถามกับผู้บริหารเอง  นั้นผมกำลังจะบอกให้เพื่อนสมาชิกทราบว่าโครงการดังกล่าวเนี่ย  ผมตั้งใจที่จะตั้งเอาไว้ เพื่อให้เพื่อนสมาชิกทุกคนมีบทบาท มีหน้าที่ มีความสำคัญ โดยทุก ๆ ฝ่ายได้เหมือน ๆ กัน แล้วเป็นยังไงครับ          ดูนะครับ บุคคลดังกล่าว  ในขณะเดียวกัน  เมื่อทั้งนาย.......................   สมาชิกสภาเทศบาล   ได้เข้าไปศึกษาหารือ  เรื่องการไปทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่ตามโครงการดังกล่าว  ในระหว่างวันที่ 3 – 9  กันยายน  2556  ยังโดนนาย....................... ต่อว่าอีกเช่นกัน โดยพูดจาหยาบคายว่าถ้าเรื่องมากนัก ก็ไม่ต้องไปกัน หรือยกเลิกโครงการนี้เสียเลย  คำพูดอย่างนี้ เพื่อนสมาชิกครับ  เรามาดูระเบียบกัน  ว่าพนักงาน  เจ้าหน้าที่ทำตัวอย่างนี้  พูดจาอย่างนี้  ผิดระเบียบข้อไหน  ผมไม่ได้กล่าวหาท่าน  เดี่ยวถึงเวลาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว  ว่าจะผิดในข้อไหน  เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยและการดำเนินการทางวินัย  ข้อที่ 15  ผมจะอ่านให้ฟัง  พนักงานเทศบาลต้องต้อนรับให้ความสะดวก  ให้ความเป็นธรรม  และให้การสงเคราะห์แก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการเกี่ยวกับหน้าที่ของตนโดยมิชักช้าและด้วยความสุภาพเรียบร้อย  มิให้ดูหมิ่น  เหยียดหยาม กดขี่หรือ    ข่มเหง ประชาชนผู้ติดต่อราชการ  การดูหมิ่นเหยียดหยาม  กดขี่หรือข่มเหงประชาชน  ผู้ติดต่อราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง  ยังไม่พอครับ  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด  ผมได้บอกกับผู้บังคับบัญชาเขาแล้วครับ แล้วผู้บังคับบัญชาเขาได้เรียกมากล่าวตักเตือน  แล้วเป็นไงครับ  เหมือนเดิมครับ  ไม่ได้ปรับปรุงตัวเอง  แก้ไข  สร้างความแตกแยก  ดูครับ  การประพฤติตัวดังกล่าวของนาย..........................  มีพฤติกรรมดูหมิ่น  เหยียดหยาม  กดขี่ข่มเหงหมิ่นประมาท  แสดงให้เห็นถึงขาดวุฒิภาวะความรับผิดชอบต่อหน้าที่  ไม่ทำหน้าที่ของตนให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการ  หย่อนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขาดคุณธรรมจริยธรรม  ให้บุคคลอื่น

    ประธานสภาเทศบาล

                       ครับ  มีการประท้วง  เชิญท่าน....................... เชิญครับ                  

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       เรียนประธานที่เคารพ หัวหน้าฝ่ายทุกฝ่าย ฝ่ายบริหาร สมาชิกผู้ทรงเกียรติ กระผมนาย........................ สมาชิกสภาเทศบาล อยากจะให้ผู้อภิปรายกระชับหน่อยนะครับ เพราะเสียเวลามานานแล้ว ขอบคุณมากครับ

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       ท่านสมาชิกครับ  คิดก่อนพูดครับ  ผมไตร่ตรองมาเรียบร้อยแล้ว  เฉพาะเพื่อนสมาชิก  ถ้ารวมทั้งตัวผมด้วย  18  คน  ผมเลยพูดทีเดียวให้มันเข้าใจเลย  ว่ามันมีที่มาที่ไป  ไม่ต้องบอกว่าอยู่มาวันหนึ่ง  ผมส่งหนังสือให้ผู้บริหาร  ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างเนี่ย  แล้วท่านมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น  นี่คือพฤติกรรม  สร้างความแตกแยก ท่านฟังด้วยความใจเย็นและเข้าใจ  ยังครับ  ที่ผมหันหลังไป  ผมอยากจะดูว่าคนที่กล่าวถึงนั่งอยู่ในห้องประชุมสภาหรือเปล่า  เดี๋ยวจะมีคนพูดทักท้วงบอกว่าบุคคลดังกล่าวไม่อยู่ในห้อง  กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ  วันนี้เป็นการประชุมสภาเทศบาล สมัยวิสามัญ  สมัยที่สอง  ประจำปี  2556  วันที่  24  กันยายน  2556  เช้าวันนี้เรามีการนัดประชุม  เวลา 10.00 น.  แต่ก่อนที่จะประชุมสภา  สิบโมง  ประมาณอีกสิบนาทีคือสิบนาฬิกาของเช้าวันนี้  ที่มีการประชุมสภา  บุคคลดังกล่าว  ยังใช้ถ้อยคำ  ดูหมิ่น  กดขี่ข่มเหง  ในห้องประชุมสภาแห่งนี้ครับ โดยใช้คำพูดว่า  กองวิชาการฯ เป็นกองสิงห์สาราสัตว์  ขออนุญาตขอเอ่ยนาม  เจ้าของกองได้ยินดังนั้น  ก็เลยถามบุคคลนี้ว่าพูดทำไมอีก  บุคคลที่พูดผมย้ำเลยครับ  ให้ชัดเจน  คือนาย......................... แล้ว ผอ.กองวิชาการและแผนงาน เลยบอกกับบุคคลดังกล่าวอีกครั้ง  ฉันจะไปแจ้งความฐานหมิ่นประมาท  ชัดเจนไหมครับ  กระชับไหมครับ  นี่เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้านี่เองอีก  ว่ากองดังกล่าว  เป็นกองสิงห์สาราสัตว์  ทั้ง ๆ ที่แต่งเครื่องแบบอยู่  ถ้าพวกท่านในฐานะเป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องประชาชน  หรือท่านเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง  ถ้าเปรียบเทียบท่านเป็นอย่างนั้น  ท่านจะรู้สึกอย่างไร  เหมาะสมหรือไม่  สร้างความแตกแยกใช่หรือไม่  เพื่อนสมาชิกครับ  ท่านประธานครับ  ผมไม่มั่นใจครับ  ผมไม่แน่ใจครับ  เมื่อสักครู่ตอนพักประชุม  ผมถามเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่กองวิชาการดังกล่าวว่าจริงหรือ ยืนยันครับว่าจริง  และขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด  แน่นอนครับ  ผมต้องรับผิดชอบ  แล้ว ผอ.กองวิชาการและแผนงาน  ท่านชื่อ.................... มันเป็นการดูหมิ่น  เหยียดหยาม  เกียรติยศของผม  ที่บุคคลดังกล่าวที่ผมอ้างมา  ที่พูดมาทั้งหมด  มีตัวตน  นั่งอยู่ในสภาแห่งนี้ครับ

    ประธานสภาเทศบาล

                       ครับท่าน................ ครับ จริง ๆ แล้วญัตติอื่น ๆ เป็นสิทธิของสมาชิกที่จะพูดนะครับท่าน แต่ว่าอยากจะให้ท่านกระชับอีกนิดนึงนะครับ จะได้ให้ฝ่ายที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจงบ้างนิดนึงนะครับ

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       ยินดีครับ  ยินดี  กระชับอะไรหรอครับ  เพราะเรื่องมันเกิดขึ้น  ผมก็พยายามพูดให้มันเป็นฉาก  เป็นตอนให้เห็นภาพจริง ๆ  แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้  เมื่อสักครู่ผมก็ได้อ่านแล้วว่าเป็นการประชุมสภาเทศบาล  สมัยวิสามัญ  สมัยไหน  เจตนาเพื่อต้องการให้รู้ว่าเมื่อเวลาเท่าไหร่บุคคลดังกล่าวยังพูดกันอย่างนี้เลย ผู้บังคับบัญชาเขาได้เรียกเข้าไปอบรม  กล่าวตักเตือนหลายครั้งแล้ว  ยังครับ  ไม่คิดที่จะแก้ไข  ผมเลยทำหนังสือร้องเรียน  นี่คือระเบียบนะครับ  ถ้าดูหมิ่นซึ่งหน้ามันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 136  มีโทษจำคุก 1 ปี  หรือปรับไม่เกิน 2,000.- บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับครับ ผมจะมากล่าวหาลอย ๆ ไม่ได้ท่าน  ท่านอย่าโดนบ้างก็แล้วกัน  ท่านที่ว่าเนี่ย  คือท่านไหนก็แล้วแต่  ท่านจะรู้สึกอย่างผมไหม  ผมก็เก็บความรู้สึกมานานพอสมควร แล้วไงครับ  โครงการที่สอง  เทศบาลพบปะประชาชน  ผมเคยคิดแล้วก็วางแผนกับฝ่ายบริหารว่าเทศบาลเรา  มี 27 ชุมชน  ซึ่งกองสาธารณสุขในรอบ 1 ปี  หรือกองสวัสดิการ  จะต้องไปพบปะประชาชนอยู่แล้วดูแลอยู่แล้ว  ทำอย่างไรโครงการดังกล่าวเนี่ย  ซอยออกมา  ให้ตัวแทนสมาชิกแต่ละเขตได้ไปพบปะประชาชน  แต่พอไปสื่อสาร  ไปติดต่อครับ  โยนให้กับฝ่ายบริหาร  นี่เป็นเรื่องจริง  ไม่ต้องกลัวครับ  หลังจากที่ผมได้อภิปรายเสร็จเรียบร้อย  ผมก็จะไปแจ้งความ  กล่าวโทษ  ร้องทุกข์  ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เบตง  หลังจากประชุมสภาเสร็จแน่นอนครับ  ผมแจ้งแน่นอน  ฉะนั้น ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมพูด  เมื่อสักครู่ท่านนายกฯ  ก็ได้สรุป  ต้องสมัครสมาน สามัคคี  แต่ถ้ามีเจ้าหน้าที่ประพฤติตัว  ปฏิบัติตัวอย่างนี้  ดูหมิ่นเหยียดหยาม  ข่มเหงเกียรติยศและศักดิ์ศรีอย่างนี้  ในฐานะที่ผมเป็นประธานสภาด้วย  ท่านอย่าพึ่งโกรธผม  ย้ำนะครับ ท่านไม่โดนบ้าง  ท่านก็ไม่รู้สึก  นี่คือเอกสารที่ผมใส่ซอง  ที่ผมหลังจากประชุมสภาเสร็จแล้วผมก็จะไปแจ้งนะครับ  มาตราต่าง ๆ ผมขี้เกียจอ่านแล้วครับ  ผมเขียนบันทึกไว้ในนี้เรียบร้อย  สามารถเปิดดูได้เลยครับ  ผมเตรียมไว้ให้เป็นที่เรียบร้อย  ถ้าใครสงสัยอยากรู้  ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล  เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยและดำเนินการทางวินัยอย่างไร  ท้ายที่สุดแล้ว  ผมขอให้ผู้บริหาร  ท่านนายกเทศมนตรี  ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบเอาข้อเท็จจริง  โดยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้ทราบด้วย  เป็นลายลักษณ์อักษรนะครับ  ผมขอฝากเรื่องนี้เอาไว้  หวังว่าจะได้คำตอบ  และหนังสือสองฉบับ  นอกจากจะให้ผู้บริหารแล้ว  ฉบับที่สอง  ผมจะยื่นให้กับท่านผู้ว่าฯเองครับ       ผมปกป้องเกียรติยศของผม  ก็เหมือนปกป้องเกียรติยศของท่าน  ขอฝากไปถึงผู้บริหารด้วยครับ  กราบขอบพระคุณมากครับ

    ประธานสภาเทศบาล

                       ขอบคุณครับท่าน........................ ก็ได้อภิปรายในส่วนของญัตติอื่น ๆ ในเรื่องของพนักงานประพฤติผิดวินัยและจริยธรรม แล้วก็เรื่องของการตั้งกรรมการสอบ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ครับ    

    สมาชิกสภาเทศบาล

                       ท่านประธานกำลังอนุญาตให้ผมพูดต่อใช่ไหมครับ ครับผมยกมือครับ ใช่ครับ ครับหนังสือที่ผมถืออยู่ในมือนี้  เป็นหนังสือที่เรียนถึงท่านนายกเทศมนตรีนะครับ  เดี๋ยวหลังประชุมเสร็จ  ผมจะยื่นให้กับท่านนายกฯ  ผมขอแจ้งในที่ประชุมทราบด้วยนะครับ  ครับกราบขอบพระคุณมากครับ        

    ประธานสภาเทศบาล

                       ก็สรุปแล้ว เป็นการอภิปรายในเรื่องของพนักงานประพฤติผิดวินัย แล้วก็เป็นการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบนะครับ  เพื่อความเป็นธรรมของผู้ที่ถูกพาดพิงในส่วนนี้  ผมก็อยากจะให้  ขอเชิญเลยครับท่านที่ถูกพาดพิง  ท่านนายกฯ เชิญครับ

    นายกเทศมนตรี

                       กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ  ท่านผู้ทรงเกียรติที่เคารพทุกท่าน ในวาระอื่น ๆ นี้  ของท่านสมาชิกพูดถึง  เป็นเรื่องส่วนตัว  ที่พูดกันส่วนใหญ่  คือความสัมพันธ์ระหว่างสองบุคคล  การที่เรื่องส่วนตัวเนี่ย  เรากำลังฟังความข้างเดียว  ผมคิดว่าเวทีนี้คงไม่ใช่ให้ใครชี้แจงตอบโต้ไปตอบโต้มานะครับ  ผมในฐานะนายกเทศมนตรี  ผมจะขอดูข้อเท็จจริง  แล้วผมจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายนะครับ  ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพในการทำงาน  แล้วผมก็ชื่นชมการทำงานของพนักงานในเทศบาลเมืองของเราทุกคน  ผมต้องให้พนักงานทุกคนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด  ใช้เวลา  เสียเวลาต้องเกิดผลงานที่ตอบสนองต่อความต้องการ  แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนได้  ทุกคนจะได้มีเวลาทำงาน  แล้วก็ทุกคนจะได้ทำงานอย่างมีความสุข  มีความรัก  ความสามัคคี    ผมจะพิจารณาด้วยความรับผิดชอบครับ  ขอบคุณท่านประธานครับ

                 จากกรณีดังกล่าว  ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า เป็นการปฎิบัติที่ชอบด้วยมาตรา 29 แห่ง พรบ.เทศบาล พ.ศ. 2496 และ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554 ข้อ 68 หรือไม่ และเป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาลที่จะมาอภิปรายในที่ประชุมสภาได้หรือไม่ และเป็นการเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่

     

     

     

     

    คำตอบ
    แหม เรื่องทะเลาะกันทางการเมือง ตอบไปก็จะเหมือนกับเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  ถ้าคิดว่าเขาหมิ่นประมาท ก็ลองปรึกษาทนายความดูจะดีกว่า
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    1 พฤศจิกายน 2556