หนูได้ข่าวมาจาก ม.บูรพาว่าท่านมีชัยมีดำริให้ตั้งวิทยาลัยรัฐศาสตร์ภายในเวลา 2 เดือน โดยยุบภาควิชารัฐศาสตร์เสีย ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือเปล่าค่ะ เห็นมีการวิจารณ์ในหมู่อาจารย์กันมาก แต่ไม่ค่อยกล้าพูดเพราะเป็นพนักงานลูกจ้าง หนูเรียนจบที่ รปม. บางแสน ซึ่งเร่งรีบตั้งเป็นวิทยาลัยมาก เคยได้ยินว่ามีอะไรเรื่องเงินกันหลายล้านและมีปัญหาคุณภาพทางวิชาการมาก คือ เรียนยังไงๆก็จบ ไม่ทราบว่าจะเจอปัญหาเหมือนกันหรือเปล่าค่ะ หนูคิดว่าน่าจะอยู่ที่ผู้นำในบริหารวิทยาลัยว่าเราจะเป็นใครไม่รู้ อีกอย่างหนึ่งได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าปีนี้ ม.บูรพาคงออกนอกระบบแน่นอน ทำไมไม่รอให้ออกนอกระบบก่อนค่ะจะได้ช่วยกันให้ดูดีๆเสียก่อน
เคารพเสมอ
ศิษญ์เก่า ม.บูรพา
อันมหาวิทยาลัยนั้น ก็เหมือนกับคน ที่ต้องพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง มิฉะนั้นก็จะตายซากไปในที่สุด ในขณะนี้รัฐบาลระงับไม่ให้มีการตั้งหน่วยงานใดขึ้นใหม่ในระบบราชการ หากต้องการจะตั้ง ก็ต้องตั้งเป็นหน่วยงานภายในโดยบริหารอย่างนอกระบบ เมื่อภาควิชารัฐศาสตร์จะขอแยกตัวออกจากคณะเ้ดิมและตั้งเพิ่มหลักสูตรนิติศาสตร์ขึ้นใหม่ ทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องออกมาเป็นคณะนอกระบบ โดยจะเลียนแบบอย่างวิทยาลัยที่มีอยู่แล้วก็ได้ เมื่อถามว่าคณาจารย์ในคณะพร้อมที่จะทำหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าพร้อม เพราะมีข้าราชการอยู่เพียง ๒ คน นอกนั้นเป็นพนักงานตามระบบใหม่แล้วทั้งสิ้น ผมจึงไม่มีอะไรจะขัดข้อง นอกจากให้กำลังใจและอำนวยความสะดวกให้ สำหรับที่พนักงานลูกจ้างไม่ค่อยกล้าพูดนั้น ผมก็นึกไม่ออกว่าพนักงานลูกจ้างหวั่นเกรงอะไร ในเมื่อสภาพที่เป็นอยู่กับสภาพที่ออกนอกระบบจะไม่แตกต่างกันเลยสำหรับพนักงาน สำหรับข้าราชการต่างหากที่จะแตกต่างไป เพราะเดิมนั้น ข้าราชการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของหรือเรียกว่าเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ส่วนพนักงานหรือลูกจ้างนั้นเป็นพลเมืองชั้นสอง (เพิ่งจะได้รับการปรับให้มีสิทธิทัดเทียมกันเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง) แต่เมื่อจัดตั้งเป็นวิทยาลัยหรือคณะที่อยู่นอกระบบแล้ว พนักงานหรือลูกจ้างจะอยู่ในฐานะทัดเทียมกันกับข้าราชการ
ที่ถามว่าทำไมถึงไม่รอให้ออกนอกระบบเสียก่อนจึงค่อยจัดตั้ง นั้น ก็คงขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละบุคคล ว่าจะนั่งรอ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร หรือจะเดินไปข้างหน้าเพื่อสร้างรูปแบบขึ้นมาใหม่ ที่เกรงว่าไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นผู้นำนั้น ก็เห็นจะต้องบอกว่า ในเวลาที่เลือกผู้นำกันนั้น ก็เห็นทุกคนมีส่วนร่วมกันอย่างแข็งขัน อยากได้ผู้นำแบบไหนก็ย่อมทำได้ และไม่ว่าจะอยู่ในระบบอะไร หากผู้นำทำผิด ก็จะต้องรับผิดชอบเหมือนกัน