ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    021559 ขอความเมตตาท่านอาจารย์คนหนึ่ง29 เมษายน 2550

    คำถาม
    ขอความเมตตาท่าน

    เรียน ท่านนายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์) ที่เคารพอย่างสูง

             เมื่อมีเวลาว่างผมชอบเข้ามาอ่านเว็บนี้ เนื่องจากได้ความรู้ทางกฎหมายมาก และบังเอิญได้อ่านกระทู้ของ คน มมส ก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วม และอยากเสนอความคิดเห็นสื่อสารกับท่าน ซึ่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยของเราและเป็นที่เคารพ เชื่อถือ ศรัทธาอย่างยิ่ง โดยใช้ช่องทางนี้ เนื่องจากถึงเร็วดี ไม่มีขั้นตอนพิธีรีตองมาก ท่านให้ความเมตตาแก่ผู้คนที่โพสท์เข้ามาแบบเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา ในกรณีการแก้ปัญหาความวุ่นวายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผมขอเสนอความเห็นอย่างนี้ครับ

    1.ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผู้คนใน มมส รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ใครทำและหวังผลอะไร สังคมมหาวิทยาลัยเป็นสังคมปัญญาชน คิดเป็น หาข้อมูลเป็น จะอย่างไรก็แล้วแต่ ทุกคนต้องเคารพกติกา ผมเชื่อและเคารพในสถาบันสภามหาวิทยาลัย และขอเสนอการแก้ปัญหาให้สภาฯแก้ที่ต้นเหตุ เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้แก่สถาบันสภามหาวิทยาลัยที่จะเป็นสถาบันหลักของมหาวิทยาลัยต่อไปในอนาคตว่า ผู้ที่เข้ามาเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องมีเจตนาดีที่จะมาช่วยพัฒนามหาวิทยาลัยด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่กระทำการอันใดที่เป็นการทำลายมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยเด็ดขาด หากมีการกระทำดังกล่าว ผมก็เห็นด้วยกับกระทู้ของคุณ คน มมส ที่เสนอให้สภาฯปลดทุกคนที่กระทำการเช่นนั้น

    2.มีการกล่าวหาสภาฯและกรรมการสรรหาอธิการบดีว่า ล๊อคสเปค ทำผิดข้อบังคับ เอื้อประโยชน์แก่บุคคลบางคนนั้น ผมได้อ่านข้อบัคับว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี มมส แล้ว ไม่เข้าใจว่ามันจะล๊อคสเปคได้ยังไง เพราะผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อคนเป็นอธิการบดีคือหน่วยงานในมหาวิทยาลัยตามที่กำหนดในข้อบังคับเท่านั้นที่เสนอได้ไม่ใช่กรรมการสรรหาฯ ดังนั้น รายชื่อคนที่จะเป็นอธิการบดีจึงมาจากความต้องการของคนภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น การที่มีหน่วยงานเสนอชื่อตนเองมาไม่มากก็ไม่ควรไปกล่าวหาว่ามีใครล๊อคสเปค และมีการกล่าวหาปล่อยข่าวในมหาวิทยาลัยว่า กรรมการสรรหาไม่เอารายชื่อที่หน่วยงานบางหน่วยมาพิจารณาบ้าง การพิจารณาของกรรมการสรรหาฯมีการทำผิดข้อบังคับบ้าง ดังนั้น เพื่อความกระจ่างชัด ขอเรียนถามว่า ท่านนายกฯหรือประธานกรรมการสรรหาฯจะเปิดเผยรายงานการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหาฯให้ประชาคมมหาวิทยาลัยรับทราบได้หรือไม่

    3.บ้านเมืองเราเป็นสังคมประชาธิปไตย เมื่อคนส่วนใหญ่เขาต้องการอย่างไรก็ไม่ควรฝืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมมหาวิทยาลัยที่เป็นสังคมปัญญาชน เมื่อคนส่วนใหญ่เขาแสดงความต้องการไปแล้วทุกคนก็ควรยอมรับ ถ้าเอาคนที่ประชาคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับจะมาบริหารมหาวิทยาลัยอย่างไรถึงจะได้รับความร่วมมือและราบรื่น ในสภาวะอย่างนี้ รับรองว่าไม่มีบุคคลใดถูกเสนอชื่อจากหน่วยงานต่างๆได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์แน่ เอาแค่ได้รับการยอมรับประมาณร้อยละ 70 ขึ้นไปก็ดีแล้ว จึงขอเสนอสภาฯให้ยอมรับความเป็นจริงในส่วนนี้ด้วย

    กราบขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณาอ่าน และหวังว่าท่านจะเมตตามหาวิทยาลัยมหาสารคามตลอดไป

    คำตอบ

    เรียน อาจารย์คนหนึ่ง

        การติดต่อกันทางนี้แม้จะสะดวก รวดเร็ว แต่ก็ต้องมีกติกาว่าจะต้องไม่เอ่ยชื่อหรือบรรยายพฤติการณ์จนเห็นได้ว่าหมายถึงใคร อันจะทำให้คนที่ถูกอ้างถึงเสียหายได้ เพราะการถามและตอบในคอลัมน์นี้เป็นการตอบในลักษณะฟังความข้างเดียว คือตอบตามข้อเท็จจริงที่ถามมา

      1. ที่ว่ามาก็จริงอยู่ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า จะหาหลักฐานได้อย่างไรว่ามีใครกระทำการอันเป็นการทำลายมหาวิทยาลัย เพราะถ้าเอาแต่เพียงความรู้สึก หรือที่คาดการเอา ก็อาจถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นธรรมได้ ข้อสำคัญในยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ ทุกคนหรือส่วนใหญ่ขององค์กร จะต้องร่วมมือกันผนึกกำลัง เพื่อจะได้เกิดพลัง ทั้งต้องระมัดระวังในการทำงานให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับให้มากที่สุด จะได้ไม่เปิดช่องให้คนไม่หวังดีเขาเอาไปโจมตีหรือกล่าวหาได้

       2. คำว่า "ล็อคสเป๊ค" นั้น มักจะมีการกล่าวอ้างกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะในหมู่ผู้คนที่ไม่ได้ดังใจ  ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การเปิดเผยกระบวนการในการสรรหา เพราะกระบวนการสรรหาจะต้องดำเนินไปตามข้อบังคับโดยเคร่งครัดเสมอ  หากมีขั้นตอนใดที่ผิดไปจากข้อบังคับในนัยที่สำคัญจนเกิดผลกระทบต่อการสรรหา ๆ นั้นก็ย่อมใช้ไม่ได้  ข้อกล่าวหาที่ว่า "ล็อคสเป๊ค" มักจะเกิดขึ้น เมื่อการสรรหาได้บุคคลที่เป็นที่ "รู้ ๆ " กันอยู่ว่าจะได้รับการสรรหา และเกิดมีการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ฝ่ายที่ไม่ได้ดังใจก็ต้องยืนยันว่ามีการล๊อคสเป๊ค

        3. สภาฯ น่ะยอมรับความเป็นจริงเสมอ ถ้าสรรหากันมาอย่างถูกต้องและได้ใครมา สภาก็ไม่ขัดข้อง  แต่เมื่อมีการไปฟ้องร้องกันถึงโรงถึงศาลจนศาลสั่งให้ระงับกระบวนการไว้ก่อน สภาก็ต้องสั่งระงับตามคำสั่งศาล แต่ก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ไปดำเนินการแก้ไขในสิ่งที่เป็นปัญหา เพื่อจะได้ดำเนินการได้ต่อไปโดยไม่ต้องรอถึงคดีสิ้นสุด เพราะถ้ารอขนาดนั้นจะยิ่งทำให้มหาวิทยาลัยเสียหายยิ่งขึ้น  


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    29 เมษายน 2550