ขอความเมตตาท่าน
เรียน ท่านนายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์) ที่เคารพอย่างสูง
เมื่อมีเวลาว่างผมชอบเข้ามาอ่านเว็บนี้ เนื่องจากได้ความรู้ทางกฎหมายมาก และบังเอิญได้อ่านกระทู้ของ คน มมส ก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วม และอยากเสนอความคิดเห็นสื่อสารกับท่าน ซึ่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยของเราและเป็นที่เคารพ เชื่อถือ ศรัทธาอย่างยิ่ง โดยใช้ช่องทางนี้ เนื่องจากถึงเร็วดี ไม่มีขั้นตอนพิธีรีตองมาก ท่านให้ความเมตตาแก่ผู้คนที่โพสท์เข้ามาแบบเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา ในกรณีการแก้ปัญหาความวุ่นวายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผมขอเสนอความเห็นอย่างนี้ครับ
1.ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผู้คนใน มมส รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ใครทำและหวังผลอะไร สังคมมหาวิทยาลัยเป็นสังคมปัญญาชน คิดเป็น หาข้อมูลเป็น จะอย่างไรก็แล้วแต่ ทุกคนต้องเคารพกติกา ผมเชื่อและเคารพในสถาบันสภามหาวิทยาลัย และขอเสนอการแก้ปัญหาให้สภาฯแก้ที่ต้นเหตุ เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้แก่สถาบันสภามหาวิทยาลัยที่จะเป็นสถาบันหลักของมหาวิทยาลัยต่อไปในอนาคตว่า ผู้ที่เข้ามาเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องมีเจตนาดีที่จะมาช่วยพัฒนามหาวิทยาลัยด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่กระทำการอันใดที่เป็นการทำลายมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยเด็ดขาด หากมีการกระทำดังกล่าว ผมก็เห็นด้วยกับกระทู้ของคุณ คน มมส ที่เสนอให้สภาฯปลดทุกคนที่กระทำการเช่นนั้น
2.มีการกล่าวหาสภาฯและกรรมการสรรหาอธิการบดีว่า ล๊อคสเปค ทำผิดข้อบังคับ เอื้อประโยชน์แก่บุคคลบางคนนั้น ผมได้อ่านข้อบัคับว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี มมส แล้ว ไม่เข้าใจว่ามันจะล๊อคสเปคได้ยังไง เพราะผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อคนเป็นอธิการบดีคือหน่วยงานในมหาวิทยาลัยตามที่กำหนดในข้อบังคับเท่านั้นที่เสนอได้ไม่ใช่กรรมการสรรหาฯ ดังนั้น รายชื่อคนที่จะเป็นอธิการบดีจึงมาจากความต้องการของคนภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น การที่มีหน่วยงานเสนอชื่อตนเองมาไม่มากก็ไม่ควรไปกล่าวหาว่ามีใครล๊อคสเปค และมีการกล่าวหาปล่อยข่าวในมหาวิทยาลัยว่า กรรมการสรรหาไม่เอารายชื่อที่หน่วยงานบางหน่วยมาพิจารณาบ้าง การพิจารณาของกรรมการสรรหาฯมีการทำผิดข้อบังคับบ้าง ดังนั้น เพื่อความกระจ่างชัด ขอเรียนถามว่า ท่านนายกฯหรือประธานกรรมการสรรหาฯจะเปิดเผยรายงานการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหาฯให้ประชาคมมหาวิทยาลัยรับทราบได้หรือไม่
3.บ้านเมืองเราเป็นสังคมประชาธิปไตย เมื่อคนส่วนใหญ่เขาต้องการอย่างไรก็ไม่ควรฝืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมมหาวิทยาลัยที่เป็นสังคมปัญญาชน เมื่อคนส่วนใหญ่เขาแสดงความต้องการไปแล้วทุกคนก็ควรยอมรับ ถ้าเอาคนที่ประชาคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับจะมาบริหารมหาวิทยาลัยอย่างไรถึงจะได้รับความร่วมมือและราบรื่น ในสภาวะอย่างนี้ รับรองว่าไม่มีบุคคลใดถูกเสนอชื่อจากหน่วยงานต่างๆได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์แน่ เอาแค่ได้รับการยอมรับประมาณร้อยละ 70 ขึ้นไปก็ดีแล้ว จึงขอเสนอสภาฯให้ยอมรับความเป็นจริงในส่วนนี้ด้วย
กราบขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณาอ่าน และหวังว่าท่านจะเมตตามหาวิทยาลัยมหาสารคามตลอดไป |