มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาร้องเรียนว่าอธิการบดีบริหารงานไม่โปร่งใส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสั่งให้ สกอ.ไปดูแล สกอ.แนะนำให้สภามหาวิทยาลัยฯตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและแนะนำว่าระหว่างผลการสอบสวนยังไม่ออกให้สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีไว้ก่อน สภามหาวิทยาลัยฯมีคำสั่งโดยนายกสภาฯ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดี พร้อมทั้งมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี โดยให้คณะกรรมการสอบสวนให่้เสร็จภายใน 60 วัน ปรากฎว่าผ่านมา 10 เดือน ก็ยังไม่แจ้งผลการพิจารณา จนกระทั่งสภามหาวิทยาลัยฯหมดอายุ สภามหาวิทยาลัยฯชุดใหม่เข้าทำงานจึงได้รับผลการพิจารณาสอบสวน ผลการสอบแจ้งว่ามีทั้งประเด็นที่มีมูลและไม่มีมูล สภามหาวิทยาลัยฯชุดใหม่นี้จึงสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการสอบสวนดังกล่าวของคณะกรรมการที่สภาฯชุดที่แล้วแต่งตั้ง พร้อมกับสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีต่อไปอีกจนกว่าสรุปผลของคณะกรรมการชุดใหม่จะรายงานออกมา เมื่อคณะกรรมการรายงานผลออกมาพบว่ามีทั้งประเด็นมีมูลและไม่มีมูล หรือต้องสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม สภามหาวิทยาลัยฯเห็นควรเสนอให้เลขาธิการ สกอ.ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอธิการบดี และสั่งยกเลิกคำสั่งการสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีอีกครั้งหนึ่งโดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันอธิการบดีเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แล้วจะเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อมหาวิทยาลัยฯ .....
คำถาม 1.การพักการปฏิบัติหน้าที่ เหมือนหรือแตกต่างอย่างไรกับการพักราชการ ใช้ระเบียบเดียวกันหรือไม่
2.สภามหาวิทยาลัยฯสามารถสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีได้หรือไม่เพราะตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินการสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นของผู้บังคับบัญชาโดยตรง (ซึ่งในกรณีนี้หมายถึงเลขาธิการ สกอ.)โดยคำเสนอของคณะกรรมการสอบวินัย ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าจำเป็นต้องสั่งพักฯ ......แต่กรณีนี้ยังไม่ได้มีการตั้งกรรมการสอบวินัย
3.กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวมีความเหมือนหรือแตกต่างกับกรณีศาลอาญาสั่งลงโทษ คุณสมหมาย ภาษี หรือไม่อย่างไร
4.ทางออกเรื่องนี้จะจบอย่างไรหรือควรเป็นอย่างไรครับ
การจะตอบคำถามทั้งหมดได้จำเป็นต้องรู้ข้อเท็จจริง และข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่ากำหนดไว้อย่างไร ซึ่งพ้นวิสัยที่ผู้ตอบคำถามจะรู้ได้