ผมเคยรับราชการมา24ปี แต่ ปี 2549 ถูกคำสั่งจังหวัดให้ไล่ออกจากราชการ ฐานขาดราชการเกิน15วันตั้งแต่ 6 มิ.ย. 2549 โดยไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ ต่อมา 1 ส.ค. 2554 ผมไดักลับเข้ารับราชการใหม่ในตำแหน่งเงินเดือนระดับเดิม แต่จากสอบถามกรมบัญชีกลางในการคำนวณบำเหน็จบำนาญในกรณีต่อไปในอนาคตไม่สามารถนำอายุราชการเก่าก่อนถูกไล่ออกมาคำนวณได้ ผมพิจารณาแล้วว่า ผู้ที่ออกหลักเกณฑ์ในกรณีขาดราชการเกิน15วันเพิ่งมีมติ ครม. ปี 2536 สมัยนายกชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มีนางทิพาวรรณ เมฆสวรรค์ เป็นเลขา ก.พ. กำหนดเพิ่มเติมจากเดิมให้กรณีทุจริต ให้ลงโทษไล่ออกสถานเดียวเท่านั้น มาเพิ่มกรณีขาดราชการเกิน15วัน ให้ไล่ออกอีกด้วย อันมีผลห้ผู้ได้รับโทษกรณีขาดราชการนี้ ต้องถูกไล่ออก(เดิมโทษสูงสุดไม่ถึงไล่ออก) ทำให้ถูกตัดสิทธิเกี่ยวกับการรับบำเหน็จบำนาญ และกรณีกลับเข้ารับราชการใหม่ก็ไม่สามารถนำอายุราชการเก่ามาคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ กระผมเห็นว่าเป็นการรังแกและไม่เป็นธรรมแก่ข้าราชการในกรณีผู้ที่ถูกไล่ออกฐานขาดราชการนี้เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เขาเคยรับราชการมาอย่างดี แต่มาพลาดกับกรณีนี้ซึ่งมีหลายสาเหตุในช่วงชีวิตขณะนั้น เสมือนกับได้รับโทษประหารชีวิต กระผมอยากจะทราบว่าจะเรียกร้องความเป็นธรรมนี้ได้อย่างไร จะสามารถฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกมติ ครม ปี 2536 เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ เพื่อข้าราชการที่ถูกลงโทษตั้งแต่ปี
2536 มาถึงปัจจุบันจะได้สิทธิบำเหน็จบำนาญคืน และหากได้กลับเข้ารับราชการใหม่จะได้สามารถนำอายุราชการเดิมมาคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการที่ผิดพลาดเพียงเสี้ยวเดียวของฃีวิตราชการแต่ต้องถูกตัดสิทธิ์ที่เคยรับราชการสะสมมานาน จึงขอกราบขอความเมตตาท่านอาจารย์ว่าจะมีแนวทางใดที่จะเรียกร้องสิทธิดังกล่าวคืนมาได้
ในความเห็นส่วนตัวอาจเข้าข้างตัวเองบ้าง ผมว่าไม่น่าจะมีโทษตัดสิทธิ์ที่เขาเคยสะสมมานานย้อนหลังก่อนถูกลงโทษ และโทษนี้ไม่น่าจะถึงขั้นไล่ออก ให้ปลดออกโดยมีบำเหน็จบำนาญก็ถือว่าสาสมแล้ว
กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ