ดิฉันได้แต่งงานมา2ปีมีลูก 1 คน ค่ะ สามีไปทำงานต่างจังหวัด 6เดือน กลับครั้ง นี่ก็ครบ 1 ปีแล้วที่ไปทำงานกลับ 2 ครั้ง ระหว่างที่ไม่อยู่ก็จะโทรมาหึงหวงดิฉันไปไหนไม่ได้เลย เช็คตลอด ดิฉันเบื่อค่ะ ประกอบกับการส่งเงินเลี้ยงดูบุตรไม่ได้ส่ง เพราะรายได้ไม่พอและส่งกลับลำบาก1 ปีที่ผ่านมาดิฉันได้แค่ค่านมลูกไม่ถึง 20,000 บาทค่ะ แต่ไม่เดือนร้อนเพราะดิฉันค่อนข้างมีฐานนะ (ลูกอยู่กับดิฉันและยายเลี้ยงค่ะ) ต่อมาดิฉันอยากขอเลิกและบอกกับสามี สามีเป็นคนพูดก่อนว่าเลิกกัน สามีกลับมาจากต่างจังหวัดและประชดมาเลิกให้ แต่ขั้นตอนการหย่ามีหลายขั้นตอน ก็เลยไม่ได้หย่าในวันนั้น แต่พอตกบ่ายวันเดียวกันสามีก็มาอุ้มเอาลูกดิฉันพร้อมเก็บเสื้อผ้าบอกจะพาไปอยู่บ้านย่า ดิฉันงงมากแต่ไม่ว่าไร่เพราะเขามีสิทธิ์เอาลูกไป พอดิฉันไปเยี่ยมลูกวันต่อมาแม่สามีได้ไล่ออกจากบ้านแถมแย่งลูกไปไม่ให้ดิฉันอุ้มลูก และบอกว่าไม่ต้องมาหาลูกอีก หลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาแจ้งความ ลงบันทึกข้อความว่าไปเยี่ยมลูกแต่ถูกกีดกัน (ใช้เป็นหลักฐานการสู้การฟ้องได้ไหม) ต่อจากนั้นทางฝ่ายสามีก็โทรมาด่า ส่ง SMSด่า อีเมลด่า (บางครั้งพาดพิงถึงครอบครัว พ่อแม่ดิฉัน) รวมทั้งขอค่าเลี้ยงดูลูก แต่ไม่ให้พบลูก ตอนนั้น (3 เดือนแล้วค่ะ) ซึ่งตัวดิฉันไม่อยากขึ้นศาลก็เลยไม่ได้ต่อสู้อะไร
1. จนวันนี้ทางฝ่ายสามีบอกจะมาฟ้องหย่า และเรียกเงิน 2แสนบาท และค่าสินสอดที่เคยให้มาตอนแต่งงานต้องจ่ายไหม จ่ายเท่าไหร่ค่ะ ตามที่ขอไหม
2.และปัจจุบันนี้ดิฉันก็มีคนที่คบๆอยู่ กลัวว่าเขาจะเอามาเป็นข้ออ้างไหมและ(จะให้อีกฝ่ายที่กลังคบอยู่เดือดร้อนไหม)
3. ลูกตอนนี้โดนฝ่ายสามีเอาไป ก่อนหน้านี้ดิฉันเลี้ยงมาค่ะปีกว่า ดิฉันจะขอเลี้ยงดูบุตรได้ไหม คิดถึงลูกมากค่ะ เพราะฝ่ายพ่อฐานะแย่กว่าและย่ามีหลานอีก 1คนที่ต้องเลี้ยงดูส่งเสีย2 ปี โดยไม่ได้ไปอยู่กับพ่อโดยตรงเพราะพ่อทำงานลูกจ้างต่างจังหวัด
4. ถ้าดิฉันยอมรับผิดขอหย่าและขอฟ้องเอาลูกและขอค่าเสียหายที่เขาด่า หมิ่นประหมาดต่าง ๆ มาลดค่าใช้จ่ายและค่าคดีจากอีกฝ่ายได้ไหมค่ะ
ให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
1. เรื่องราวที่เล่ามา ถ้าผสมผเสกันก็อาจพอถือเป็นเหตุหย่าได้ แต่ใครจะเป็นคนหย่าใครได้นั้น ตอบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าใครทิ้งใคร และหลักฐานการด่าว่าและการไม่ให้พบลูกมีหนักแน่นเพียงใด สำหรับค่าสินสอดและค่าเสียหายในการแต่งงานกันนั้น เมื่อได้แต่งงานกันแล้วก็เรียกคืนไม่ได้ แต่ถ้าการหย่าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลง และฝ่ายนั้นไม่ได้เป็นผู้ผิด ก็อาจเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้
2. เมื่อมีการฟ้องหย่า อีกฝ่ายหนึ่งคงพยายามหาเหตุที่จะทำให้ดูว่าคุณเป็นฝ่ายผิด และสิ่งที่หนักแน่นที่สุดก็คือการที่คุณมีคนใหม่ จึงควรระมัดระวังตัว
3. ถ้าฟ้องหย่าและแย่งการปกครองบุตร ศาลคงพิจารณาจากประโยชน์ของบุตรว่าอยู่กับใครแล้วเด็กจะมีความสุขมากกว่า
4. การที่คุณจะยอมรับผิดได้ ต้องแปลว่าคุณได้ทำผิดอะไร (ซึ่งคุณไม่ได้บอกมา) ควรทบทวนดูให้ละเอียดว่าได้ทำอะไรเป็นความผิดบ้าง อยางน้อยจะได้เตรียมตัวไว้สู้คดีกับเขาได้