กระผม ขอเรียนถามครับ
กระผมถูกโจทย์ฟ้องเรื่อง ค่าเลี้ยงดู และ หนี้สินระหว่างสมรส ผมมีอาชีพรับราชการ และโจทย์ก็รับราชการครับ ผมมีเงินเดือนคงเหลือ 4,900 บาท เงินเดือน 11,000 ครับ โจทย์ฟ้องค่าเลี้ยงดูเดือนละ 5,000 เพิ่มขึ้นอีกปีละ 500.- และหนี้สินที่เคยยืมพี่สาวเธออีกจำนวน 200,000 บาท คนละ 100,000 ครับ ข้อเท็จจริง หนี้สินจำนวน 200,000 บาท กระผมและโจทย์ได้ชำระไปแล้ว เป็นรายเดือน เป็นเวลา 4 ปี แต่ไม่มีหลักฐาน เนื่องจากกระผม ไม่เคยที่จะเรียกเอาใบเสร็จรับเงิน จากพี่สาวของโจทย์ สิ้นเดือนกระผมก็จ่ายให้โจทย์เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ พี่สาวเขา ถ้าเดือนไหนช้า ก็จะโดนทวงถามทันทีครับ เพราะพี่สาวเขาก็ยืมมาจากสหกรณ์ที่ทำงานเขา อีกที แต่เมื่อถึงศาล ศาลได้ตัดสินให้กระผมจ่ายค่าเลี้ยงดู จำนวน 2,500 บาท และ คืนเงินให้แก่โจทย์ทั้งจำนวนเป็นเงิน 100,000 บาท ครับ แต่ตอนนั้นผมอยากที่จะขออุทรณ์ ซึ่งผมไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ผมไม่มีหลักฐาน และไม่มีเงินจ้างทนาย ซึ่งทนายได้เรียกเป็นเงิน 15,000 บาท กระผมจึงได้ก้มหน้าก้มตา รับกรรมมาจนทุกวันนี้ครับ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี แล้ว และโจทย์ได้ ให้สำนักบังคับคดี สั่งอายัดเงินเดือนผม ซึ่งมีคงเหลือ ปัจจุบัน 5,200 บาท หักค่าเลี้ยงดู 2,500 บาท คงเหลือใช้ในชีวิตประจำวัน 2,700 บาท ทุกวันนี้ พ่อกับแม่ ต้องช่วยเหลือ ซึ่งกระผมก็ละอายเป็นอย่างมาก และไม่สามารถที่จะผ่อนส่ง อะไรได้ เพราะ ไม่มีเงินและ คงต้องถูกฝ่ายโจทย์อายัดไปเช่นกัน.. ทุกวันนี้ชีวิตไม่มีความสุข เหมือนโดนคุมขังไว้ เพราะจะทำอะไรก็ไม่ได้ครับแถมยังต้องทำให้พ่อแม่พลอยเป็นห่วงด้วย และในเวลาต่อมา ผมได้มีหลักฐานในการที่โจทย์ได้ชำระเงินแก่พี่สาวของเธอแล้ว และตอนนี้สถานะของโจทย์ก็เปลี่ยนไป เขาแต่งงานใหม่ มีธุรกิจเป็นของตนเอง ซึ่งต่างจากผมซึ่งต้องนั่งชำระหนี้ให้แก่โจทย์อยู่ทุกเดือน ผมขอเรียนถามอาจารย์ครับว่า กระผมสามารถที่ขอให้ศาลกลับมาพิจารณาเรื่องอีกครั้ง ได้หรือไม่ และสามารถลดภาระค่าเลี้ยงดูบุตรไปอีกสัก 2 - 3 ปี และเพิ่มใหม่ตอนที่กระผมมีรายได้มากกว่าทุกวันนี้ ได้หรือไม่ครับ ขอเรียนถามครับ..