ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    046139 การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินขวัญจิตร20 มกราคม 2555

    คำถาม
    การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

    เรียน อาจารย์มีชัย

            ดิฉันแต่งงานกับสามีมา  13 ปี แม่สามีให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูกคนที่ 2 เองและได้ทำการจดทะเบียนสมรสในปีที่ 11 สามีเป็นลูกโทน  ดิฉันมาอยู่บ้านได้เพียงปีเศษก็ได้รับข้อความจากผู้หญิงคนหนึ่งว่าสามีเราไปส่งผู้หญิงที่ห้องหลายครั้ง หลังจากนั้นดิฉันเข้นเอาความจริงเขายอมรับจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต แม่และพ่อของเขาไม่พอใจบอกให้เลิกแต่เขาไม่ยอมพ่อและแม่เขาเสียใจมากที่ไม่สามารถบอกลูกคนเดียวได้ ปัญหามีอยู่ว่าแม่สามีไม่อยากให้ที่ดินตกไปเป็นของลูกชายกลัวเขาเอาไปให้เมียใหม่(ตอนนั้นดิฉันตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น)ดิฉันยังอยู่ที่บ้านสามีอีกประมาณ 1 ปีในขณะที่สามีอยู่กับเมียใหม่แม่สามีได้โอนที่ให้ดิฉัน ประมาน 13  ไร่ (ทั้งหมดเกือบ 100 ไร่)ในเดือนมีนาคม 2554 ในตอนนั้นดิฉันได้พูดกับแม่สามีจริงว่าไม่มีคนเลี้ยงก็จะเลี้ยงเองดิฉันจะไปใหนได้เพราะลูกก็อยู่นี้ทั่ง  2  คน (มองไม่เห็นทางออกจิงๆค่ะได้แต่เสียใจ) ก่อนโอนที่ดินดิฉันได้พูดอยู่ว่าถ้าไม่แน่ใจก็ยังไม่ต้องโอนก็ได้แต่แม่สามีบอกว่าได้พูดแล้วไม่คืนคำ(พูดให้คนอื่นฟังไปหมดไม่ว่าจะบนรถโดยสารหรือคนรู้จักเพราะไม่อยากให้ที่ดินตกไปเป็นของเมียใหม่ลูกชายเพราะเกียจมาก)ดิฉันตั้งตารอแต่ในขณะเดียวกันสามีกับพยายามถอยห่างออกไปไกลจนไม่มีทางหวนกลับ  หลังจากโอนที่ได้ 1เดือนเศษ ดิฉันบอกให้พ่อแม่ไปรับดิฉันกลับบ้านเพราะทนอยู่ในสภาพนี้ไม่ใหวแล้วและเอาลูกชายคนเล็กมาด้วย ตอนนี้จะ  4  ขวบแล้ว ดิฉันมาอยู่บ้านแม่ตัวเอง  9 เดือนเขาไม่เคยแวะมาดูเลยทั้งๆที่เขาเคยรักลูกมาก 9 เดือน ส่งเงินมาให้ 4,000  บาท ใช้หมดตั้งแต่เดือนแรกเพราะดิฉันไม่มีเงินเก็บเลยลูกก็พึ่งเข้าโรงเรียน ค่านมก็หมดเพราะดิฉันยังไม่ได้ทำงาน  ตอนนี้สภาพจิตใจดิฉันเข็มแข็งแล้วจึงขออย่าจากสามี  เขาเองก็เต็มใจและจะโอนรถให้คันหนึ่ง(มี 3 คัน)ไม่รวมรถเกี่ยวข้าว ดิฉันไม่อยากฟ้องเพราะลูกชายอีกคนยังอยู่กับแม่สามี พอพูดเรื่องหย่า แม่สามีก็เลยบอกว่าจะเอาที่ดินคืน(จะดีแค่ใหนพอหันหลังลงจากบ้านก็เห็นเป็นคนอื่น คือไม่อยากให้ดิฉันได้อะไรติดตัวมาเลย)เพราะหาว่าลูกสะใภ้เนรคุณไม่เลี้ยงดู ดิฉันหอบลูกมามือเปล่าโฉนดยังอยู่กับแม่สามี (ตอนนี้ดิฉันไม่มีเงินและไม่มีที่อยู่อาศัยอยู่บ้านแม่ที่จะยกให้น้องชาย) ปัญหาแม่สามีจะเอาที่ดินคืนท่าเดียวเพราะเขาบอกมาว่าที่โอนให้เพราะหวังจะให้เราเข้า ธกส. กู้เงินมาหมุนเวียน ขอถามค่ะ

    1.แม่สามีสามารถฟ้องเอาที่ดินคืนได้ใหมค่ะ แล้วดิฉันจะได้โฉนดที่ดินมายังไง ถ้าดิฉันไม่ได้เข้าไปทำกิน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของใคร (ดิฉันอยากโอนต่อให้ลูกคนเล็กจำทำได้ใหมค่ะ)

    2. วันที่ 23  มกราคม นัดหย่ากับสามี  การหย่ามีผลต่อการฟ้องเอาที่ดินคืนใหมคะ

    คำตอบ

    1. เมื่อเขาโอนให้คุณแล้วก็ย่อมเป็นของคุณ อยู่ ๆ จะเอาคืนไม่ได้  เว้นแต่เป็นกรณีเนรคุณ ซึ่งก็ต้องฟ้องศาลเสียก่อน แต่กรณีของคุณไม่เข้าข่ายการเนรคุณ  เมื่อที่ดินเป็นของคุณ ๆ จะโอนให้ลูกคนไหนก็ได้  ส่วนการทำกินในที่ดินนั้น ถึงไม่ได้ทำกินที่ดินนั้นก็ยังเป็นของคุณ  คอยระวังอย่าให้ใครไปครอบครองปรปักษ์ก็แล้วกัน (แต่การครอบครองปรปักษ์ต้องใช้เวลาถึง ๑๐ ปี)

    2. ไม่มีผล  ในการหย่านั้นถ้าตกลงว่าเขาจะยกอะไรให้ ก็ต้องให้เขาโอนให้ในวันหย่า  ถ้าเขาบอกว่าแล้วจะโอนให้ก็อย่าเพิ่งหย่า


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    20 มกราคม 2555