1. ยังไม่ถือว่าเป็นการรับรองบุตร
2. ไม่หมด แต่จะยิ่งทำให้ฐานะของเด็กคนนั้นดีขึ้น เพราะพอพ่อสามีคุณตาย เด็กคนนั้นก็จะได้รับมรดกจากพ่อสามีเท่า ๆ กับที่สามีคุณได้รับ เช่น ถ้าพ่อสามีมีมรดก ๑๐ ล้าน พอตายและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ สามีคุณกับเด็กคนนั้นก็เลยได้มรดกคนละ ๕ ล้าน ส่วนคุณกับลูกยังไม่ได้ เมื่อสามีคุณตายและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เงิน ๕ ล้านที่ได้รับมรดกมาก็จะตกได้แก่คุณ บุตรของคุณ และเด็กคนนั้น ก็จะได้รับอีกทีหนึ่งในฐานะเป็นลูก (ถ้าเขารับรองเด็กเป็นบุตร)
3. ได้ถ้าแม่เขายอม เด็กคนนั้นก็จะมีฐานะดีขึ้น เพราะนอกจากเป็นลูกของสามีคุณแล้ว (ถ้าเขารับรอง ซึ่งเขาจะรับรองเมื่อไรก็ได้) ยังเกิดความผูกพันว่าเป็นญาติกับแม่คุณด้วย
4. ถ้าสามีคุณไม่ได้รับรองเขาเป็นบุตร และเขาเป็นบุตรจริง ๆ (ทางสายเลือด) เขาก็ฟ้องให้รับรองได้
5. จะจ่ายเป็นรายเดือน รายปี หรือให้เป็นก้อน ก็สุดแต่จะตกลงกัน โดยคำนึงถึงฐานะความเป็นอยู่ของผู้รับ กับผู้ให้
6. ถ้าเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ไปผูกมัดเด็กอย่างนั้นไม่ได้
ถ้าเขาจำเป็นที่จะได้ค่าเลี้ยงดูเพียงเท่านั้น ก็ให้สามีจ่ายเขาไปเถอะ อย่าไปคิดยักย้ายถ่ายเทให้สถานการณ์แย่ลงเลย
มีชัย ฤชุพันธุ์
26 กุมภาพันธ์ 2555 | 
