ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    048669 ขอคำปรึกษาจากอาจารย์หน่อยค่ะคนที่พ่อแม่ไม่เคยคิดว่าเป็นลูก28 มกราคม 2556

    คำถาม
    ขอคำปรึกษาจากอาจารย์หน่อยค่ะ

           สวัสดีค่ะ อาจารย์ ดิฉันมีปัญหาที่คิดไม่ตก  ที่อยากจะปรึกษาอาจารย์ เพื่อหาทางออกให้กับชีวิต  ค่ะ (ขอโทษนะคะที่มันไม่ได้เกี่ยวกับข้อกฎหมายเลยแต่ดิฉันเชื่อว่าอาจารย์คือที่พึ่งที่ จะสามารถหาทางออกให้กับดิฉันได้ค่ะ)

           ดิฉันเชื่อค่ะว่า คนทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีทุกข์  ตัวดิฉันเองก็มีทุกข์  ซึ่งเกิดหลังจากที่ดิฉันแต่งงาน ได้ประมาณ 3 ปี (แต่งเมื่ออายุ 25 ปี )มีลูกด้วยกัน  1  คน สาเหตุไม่ได้มาจากความเจ้าชู้ของสามีหรือความไม่รับผิดชอบอะไรอย่างที่ผู้ชายส่วนใหญ่เขาเป็นกันแต่มาจาก  พ่อแม่  ของดิฉันที่เขาคอยจับผิดดิฉันทุกอย่าง คือ  เขาจะไม่ชอบถ้าเห็นดิฉันและสามีซื้อทรัพย์สินอะไรร่วมกัน ซึ่งดิฉันพอแต่งงานแล้วก็ย้ายมาอยู่บ้านสามี พอเราซื้อรถ พ่อแม่ดิฉันก็ไม่ชอบและหาว่าดิฉันซื้อเพื่อให้ที่บ้านของสามีใช้ทั้งๆที่  บ้านของสามีเขาก็มีรถส่วนตัวใช้อยู่แล้ว จะสร้างบ้านในที่ดินที่พ่อแม่สามียกให้  ฟรี ๆก็ไม่ได้อีก เขาบอกให้ไปซื้อบ้านแถวในเมืองอยู่  ส่วนจะให้เขายกที่ดินของเขาให้ หรือจะให้เงินมาซื้อ ก็เปล่าเลย เขาไม่ได้ยกทรัพย์สินอะไรให้กับดิฉันเลย  พ่อแม่ดิฉันเขาเป็นคนขี้เหนียว   ดิฉันแต่งงานมา 3 ปี  แล้ว   เขาไม่ได้ยกทรัพย์สมบัติให้สักชิ้นเดียวดิฉันก็ไม่เคยพูดอะไรสักคำ  ทีกับพี่สาวดิฉัน เขายกที่ดินให้  ไป 2  แปลง ประมาณ  5  ไร่  เป็นที่ที่ติดถนน เป็นสวนยาง กับลูกดิฉันก็เหมือนกันพ่อกับแม่ก็ไม่เคยให้อะไรเลย ส่วนลูกของพี่สาว เขาฝากเงินให้ในบัญชี พอดิฉันพูดบ้าง เขาก็บอกว่าก็ปู่กับย่า (หมายถึงพ่อแม่สามีดิฉัน) เขาก็ให้แล้วนี่ ดิฉันรู้สึกน้อยใจพ่อแม่ของตัวเองมาก  สามีดิฉันเขาก็พูดเสมอว่าถ้าเขาไม่ยกอะไรให้ก็ไม่ต้องไปพูดอะไร  เราค่อยสร้างเนื้อสร้างตัวเองก็ได้ 

         แต่อาจารย์คะ  พ่อแม่ของดิฉันเขาไม่คิดจะให้เราสองคนได้สร้างเนื้อสร้างตัวเลยค่ะ  เขาคิดว่าเรา 2 คน คงเป็นมหาเศรษฐีมั้งคะ เขาไม่คิดว่าดิฉันต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ที่ต้องใช้จ่ายในครอบครัว เช่น ค่านมลูก เสื้อผ้า หรืออะไร จิปาถะ  บางเดือนแทบจะไม่พออยู่แล้ว ไหนจะผ่อนรถอีก  พอดิฉันบอกเขาก็ไม่เชื่อ พ่อแม่ดิฉันเขาบอกว่าทำไมดิฉันไม่คิดจะส่งให้น้องเรียนบ้าง เขาจะบังคับให้ดิฉันซื้อของให้เครือญาติทุกคน ในทุกเทศกาล ไปงานทุกงาน   ไม่ว่าจะงานศพ งานแต่ง งานศพแม่ยายพ่อตาของป้าเสีย  คือทุกงานอ่ะค่ะใจดิฉันเองไม่ได้อยากซืื้อ  หรืออยากไปเลย เพาะญาติแต่ละคน  เขาไม่เคยหวังดีอะไรเลย เขาเคยดูถูกดิฉันด้วยซ้ำ  ถ้าไม่ให้หรือไม่ไปงาน พ่อกับแม่ดิฉันเขาก็จะโกรธ ด่าว่าดิิฉันแรง ๆ  พี่น้อง  ของดิฉันคนอื่นจะไม่โดนนะคะ  ดิฉันก็บอกว่าดิฉันเงินเดือนน้อย มีรายได้จากเงินเดือนอยางเดียว เดือนนึง 10,000  เดียวเอง   ค่าใช้จ่ายในครอบครัวของตัวเองก็จะไม่พออยู่แล้ว  และพ่อแม่ดิฉันเอง เขาก็ไม่ใช่คนยากจนอะไร มีสวนยางตั้ง เป็น 10 ๆ กว่าไร่ ดิฉันเองไม่เคยได้หยิบยืมเงินอะไรเขาเลย ตั้งแต่ตอนสมัยที่ดิฉันเรียนแล้ว  ดิฉันทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ อายุ 18 ปี จนจบป.ตรี โดยไม่ใช้เงินแม่สักบาท เดียว 

           พอดิฉันแต่งงาน  ดิฉันก็เครียดหนักเข้าไปอีก ตอนนี้ดิฉันคิดว่าจะหย่ากับสามี  ประชดพ่อกับแม่ดิฉันไปเลย จริง  ๆ ดิฉันสงสารสามี  ให้เขาไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่าดิฉัน และเพียบพร้อมกว่า สามีเองที่จริงเขามีหน้าที่การงานที่ดีกว่าดิฉันเสียอีก และเขาเองก็เครียดกับพ่อแม่ดิฉันมาก  หลังจากวันแต่งงานเขาไม่เคยเหยียบไปบ้านพ่อแม่ดิฉันเลย  และที่บ้านของสามีดิฉันตอนนี้เขาก็เริ่มไม่ชอบพ่อแม่ดิฉัน  และพาลไม่ชอบดิฉันด้วย ดิฉันเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไร

          - อาจารย์คิดว่าดิฉันผิดหรือเปล่าคะที่ดิฉันรู้สึกเกลียด พ่อแม่ของตัวเอง  ที่ดิฉันรู้สึกว่า เขาสองคน เห็นแก่ตัว  ดิฉันเคยปรึกษาพ่อกับแม่ว่าถ้าเป็นแบบนี้ดิฉัน ๆ จะหย่า และกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านดีไหม พ่อดิฉันก็บอกว่าไม่ได้  คือหย่า นะได้    แต่ไม่ให้กลับมาอยู่ที่บ้าน คือให้ดิฉันไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด  ดิฉันอธิบายอะไร  เขาไม่เคยฟังดิฉันเลย มีแต่ด่าว่าดิฉัน บางทีดิฉันอยากตายให้มันพ้นๆ ไปเลย    

    คำตอบ

    คุณคงต้องทำใจเสียใหม่ว่า เมื่อคุณแต่งงานจนมีลูกแล้ว คุณก็มีครอบครัวของคุณที่คุณจะต้องช่วยกันสร้างขึ้น คุณกับครอบครัวเดิมเป็นอันขาดจากกัน การขาดกันนี้เป็นการขาดกันทางกายภาพ คือเรื่องการสร้างเนื้อสร้างตัว ส่วนความสัมพันธ์ก็คงยังคงต้องมีอยู่ในฐานะที่เป็นบุพการี คุณจะสร้างอะไรก็เป็นเรื่องของคุณ คุณมีเงินมากจะเผื่อแผ่พี่น้องญาติผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ถ้าไม่มี เพราะยังอยู่ในระหว่างการสร้างฐานะ คุณก็ต้องนึกถึงครอบครัวของคุณเป็นใหญ่  จะอาศัยคำพูดของพ่อแม่ แล้วไปเผื่อแผ่ญาติอื่น ๆ จนครอบครัวตัวเองเดือดร้อน ก็ไม่ใช่เป็นความดีที่พึงทำ  สำหรับการรับรู้ของพ่อแม่ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดแก่ท่าน คุณจะทำอะไรก็อย่าไปให้ท่านรู้ ไม่ต้องบอก เพราะบอกแล้วถ้าเป็นคนใจแคบก็อาจจะหงุดหงุดหรือเป็นทุกข์ ตามประสาของคนอิจฉา  จำไว้เสมอว่าคุณก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำนุบำรุงครอบครัวของคุณที่กำลังก่อร่างสร้างตัว  การไปมาหาสู่ก็ไปให้น้อยลง ในเทศกาลสำคัญ ๆ ก็ซื้อของไปให้ตามควรแก่กรณี ส่วนเขาจะว่าหรือฝากใครมาว่าอย่างไร ก็ปล่อยให้ผ่านไป ไม่ต้องเก็บมาคิดให้หนักสมอง ที่คิดจะเลิกกับสามีเพื่อประชดพ่อแม่นั้น ไม่ควรทำ เพราะจากที่คุณเล่ามาสามีคุณก็เป็นคนดี ที่ไม่หวังจะได้อะไรจากพ่อแม่คุณ ตั้งหน้าตั้งตาสร้างครอบครัวของคุณต่อไปเถอะ


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    28 มกราคม 2556