ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049506 ขอหย่าใช้สิทธิปกครองบุตรพ่อเลี้ยงเดี่ยว16 สิงหาคม 2556

    คำถาม
    ขอหย่าใช้สิทธิปกครองบุตร

    เรียนอาจารย์มีชัย

    1.      จดทะเบียนสมรส อยู่กินกับภรรยามาประมาณ 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในขณะที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ผมเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าผ่อนรถ ค่าเทอมบุตร รวมถึงค่าของใช้ต่างๆภายในบ้าน เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน ซื้อของเข้าบ้านก็เป็นคนจ่ายทุกครั้ง

    2.      ต่อมาช่วงปลายปี 52 เราได้มีปากเสียงกันรุนแรง ทำให้ภรรยาแอบพาลูกหนีกลับ ต่างจังหวัด และ กลับมาโดยพาแม่กลับมาอยู่ด้วยอีกคน ทำให้ผมอึดอัด เพราะถูกต่อว่า ด่าทอ พูดจาเสียดสี แสดงกิริยาอาการรังเกียจผม อยู่เป็นประจำจากทั้ง 2 คน จนทำให้อยู่บ้านอย่างไม่มีความสุข

    3.      เหตุที่ไม่ได้อยู่เป็นประจำเพราะ ภรรยาและแม่ภรรยา ร่วมกันพูดจาดูหมิ่นเกียรติ ทำให้อึดอัดจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติสุขได้ และประกอบกับค่าใช้จ่ายเวลาไปทำงานสูง ต้องนั่งแท็กซี่ขึ้นทางด่วน ไปกลับทุกวันก็ไม่ไหว เลยต้องค้างที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ (ก่อนที่จะทะเลาะกันก็เป็นอยู่อย่างนี้) บ้านเพื่อนบ้าง บ้านน้องบ้าง แล้วแต่โอกาส ในขณะที่ภรรยาขับรถยนต์ไปทำงานโดยอ้างว่า ที่ทำงานอยู่ลึก และ ต้องไปส่งลูกไปเรียน แต่ถึงแม้จะอึดอัดอย่างไร ผมก็พยายามกลับไปหาลูกบ่อยๆ เพื่อพาออกไปเดินเที่ยวเล่นให้เหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วๆไป

    4.      ช่วงประมาณกุมภา ปี 2554 ภรรยาบอกว่าแม่เขาซื้อบ้านใหม่ ภรรยาจึงบอกให้ว่าจ้างรถขนของเพื่อย้ายของแม่ไปบ้านใหม่ ซึ่งผมเข้าใจว่าแม่เขาจะย้ายออกไปอยู่บ้านใหม่เท่านั้น จึงได้ทำการติดต่อว่าจ้างให้ (เรื่องซื้อบ้านของตัวเองผมเคยบอกกับภรรยาไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่รถเราผ่อนหมด ค่อยขยับขยาย เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระหว่างนี้ก็ดูๆไปก่อน) พอถึงวันกลับขนข้าวของออกจากบ้านพักไปหมด เหลือไว้แต่เพียงของใช้ส่วนตัวของผม ซึ่งในขณะนั้น ผมไม่สามารถดำเนินการอะไรได้จึงปล่อยให้เลยตามเลย ซึ่งต่อมาผมก็ได้คุยกับภรรยาเรื่องการแยกกันอยู่แบบนี้มันก็เหมือนไม่ใช่ สามีภรรยากันแล้ว ก็น่าจะมาทำเรื่องหย่าให้มันถูกต้อง แต่เขาก็ตอบ ปฎิเสธว่า ไม่เห็นต้องไปทำอะไร เขาเป็นข้าราชการไม่อยากจะหย่าให้เป็นเรื่องอับอาย ผมก็เลยบอกว่า งั้นก็ให้กลับมาอยู่ที่เดิมก็ไม่ยอมมา โดยบอกว่า เขาอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว

    5.      หลังจากนั้นผมจึงให้คนมาทำความสะอาด, ตกแต่งให้อยู่ในสภาพที่พร้อมอยู่ และจัดหาข้าวของเครื่องใช้ในบ้านใหม่ทั้งหมด เพื่อทำให้บ้านผมสามารถอาศัยอยู่ได้ หาเงินมาดาวน์รถยนต์ โดยคาดการณ์เอาว่า วันเสาร์- อาทิตย์ จะไปรับลูกมาพักอยู่ด้วย ซึ่งช่วงแรกๆ ตอนที่ลูกชายมาพักอยู่ด้วยก็จะชอบบ่นให้ฟังว่า พอไปอยู่บ้านยายแล้วเขาไม่เคยไปโรงเรียนทันเข้าแถวเลย ก็ได้แต่ปลอบใจและให้กำลังใจลูกว่า หนูก็ต้องรีบลุกขึ้นมาแต่เช้า แต่งตัวทำอะไรให้มันเรียบร้อย จากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องขัดข้องใจกันขึ้นมาอีกคือ ช่วงวันหยุดยาว ผมพาลูกชายและแม่ของผม ไปเที่ยวทะเลพอกลับมาจากเที่ยวทะเลก็พาลูกไปส่งที่บ้านแม่ภรรยา และกำลังจะไปส่งแม่ที่ ต่างจังหวัดโดยตอนนั้นผมขับรถถึงอยุธยาแล้ว ภรรยาผมก็โทรมาบอกว่า ให้มาพาลูกไปหาหมอ ลูกไม่สบาย ผมก็เลยบอกไปว่า ตอนนี้กำลังไปส่งแม่อยู่ถึงอยุธยาแล้ว รถคุณก็มีทำไมคุณไม่พาไป เขาบอกว่า เขาเทปูนหน้าบ้านเขาอยู่ ไม่สะดวกเอารถออกมา เดี๋ยวปูนที่เทไว้มันจะพัง ผมก็เลยย้อนกลับไปเพื่อรับลูกไปหาหมอ และบอกเขาว่า ถ้าคุณห่วงบ้านแม่คุณมากกว่าชีวิตลูก ผมจะเป็นคนเลี้ยงดูลูกผมเอง และผมก็พาลูกชายมาอยู่กับผมตั้งแต่นั้นมา โดยที่ภรรยาไม่ได้ให้ของใช้ชองลูกชายติดตัวมาเลย แม้แต่ กระเป๋านักเรียน หนังสือเรียน ชุดนักเรียน (ลูกอยู่ ป.2 เทอม 1) ทุกสิ่งทุกอย่างหาเอาใหม่หมด แถมยังโดนแม่ภรรยาด่าสมทบมาอีกว่า อย่ามาสร้างปัญหาความวุ่นวายที่นี่ ถ้าวันนั้นผมพาลูกสาวมาได้อีกคนผมก็จะพามาอย่างแน่นอน

    6.      ระหว่างที่ผมอยู่กับลูกชายแล้ว ภรรยาผมก็ไม่เคยจะมาเยี่ยมลูกเลย มีแต่ผมที่ได้พยายามไปเยี่ยมลูกสาวคนเล็กในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ค่อยได้พบเจอ โทรไปหาภรรยาเขาก็ไม่ยอมรับสาย ไปเรียกหน้าบ้านก็ไม่ยอมมาเปิดประตู น้อยมากที่จะได้พบกับลูกสาว ครั้งล่าสุดที่ได้พบกับลูกสาวเมื่อประมาณต้นปี 56 และผมก็มีความรู้สึกว่าลูกผิดปกติ เพราะตอนนี้อายุ 4 ขวบแล้วยังพูดไม่ได้เลย ก็บอกให้ภรรยาพาลูกไปหาหมอ เพื่อรับการตรวจเช็ค เขาก็พูดบอกว่า ไม่อยากพาไป เพราะมันแพง รพ.เอกชน เบิกไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ลูกผมต้องผิดปกติอย่างนี้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ ปัจจุบันลูกชายผมอยู่ ป. 4 แล้ว มีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา เป็นหัวหน้าห้อง เป็นที่รักของเพื่อนๆ เคยได้รับรางวัลแต่งกายดี สอบได้เลขตัวเดียวมาตลอด ผมไม่ห่วงเพราะอยู่กับผม แต่กับลูกสาว ผมคงจะทนต่อไปแบบนี้ไม่ได้ ผมจึงจะฟ้องหย่ากับภรรยา และขอเลี้ยงดูทั้ง 2 คน ไม่ทราบว่าพอจะมีทางเป็นไปได้ไหม หรือพอจะมีทางออกอย่างไรบ้าง ผมไม่สามารถที่จะทนร่วมทางเดินกับผู้หญิงคนนี้ได้อีกแล้ว

    คำตอบ

    ถ้าคุณฟ้องและบรรยายรวมทั้งหาพยานหลักฐานไปแสดงให้เห็นได้อย่างที่บรรยายมาข้างต้น คุณก็มีโอกาส  แต่ถ้าคุณเล่าข้าม ๆ ในส่วนความผิดของคุณ (เช่น มีผู้หญิงใหม่) ก็เป้นอีกเรื่องหนึ่ง

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    16 สิงหาคม 2556