เรียนอาจารย์มีชัย
ดิฉันซื้อคอนโดประมาณปี 40 กู้ผ่านแบงค์โดยธนาคารจัดการให้เสร็จพร้อมตัวแทนโครงการ ไม่สามารถผ่อนต่อได้ ธนาคารอายัดทรัพย์ดิฉัน และดิฉันก็ไม่ได้ติดต่อธนาคารอีกเลย ไม่รู้เขาเดินเรื่องไปถึงไหน จะไปศาลตามหมายที่แปะหน้าประตูก็ไม่กล้าไปเลย ไม่รู้เขาจะจับดิฉันเข้าคุกหรือเปล่า นอนตาไม่หลับมาตลอด 9 ปีมานี้
ต่อมาดิฉันได้สมรส และคู่สมรสกู้เงินซื้อบ้าน ดิฉันตกงาน ทราบต่อมาว่ากลายเป็นบุคคลล้มละลายปีนี้ ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้าง
1 คำว่าทุจริต หมายความว่าอย่างไรคะ หมายความว่าไม่ติดต่อเขาอีกเลยด้วยหรือเปล่า ทะเบียนบ้านก็ยังอยู่ที่คอนโดนี้ แต่ย้ายทีอยู่ไม่กล้าติดต่อเขาเลย คงไม่ได้หมายความว่า ดิฉันทุจริตใช่ไหมคะ
2 ราคากู้ 5แสนกว่า ต่อมามีจดหมายแจ้งหนี้คงเหลือมาถึงดิฉันที่พักเก่าปีที่แล้ว ว่ามีหนี้ 3 แสนกว่า เขาคงเอาห้องไปขาย แล้วมีคนซื้อไปแล้วด้วยราคา 3 แสนกว่า ... ดิฉันไม่แน่ใจว่าเขาฟ้องล้มละลายดิฉันแล้วตรงนี้ เห็นอาจารย์บอกว่าต้องหนี้ 1 ล้านขึ้นไป หรือว่าหนี้ + ดอกเบี้ย ขึ้นไปถึงนั่นแล้วคะ
3 เขาจะมายึดบ้านของคู่สมรสดิฉันหรือเปล่าคะ ชื่อก็เป็นของเขา ดิฉันไม่กล้าซื้ออะไรที่เป็นชื่อดิฉันเลย
4 ถ้าล้มละลายแล้ว ดิฉันสามารถทำอะไรได้บ้างคะ เพื่อจะพ้นสภาพนี้
ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
เรียน นามปากกา
1. ข้อเท็จจริงเพียงเท่านั้นยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นคนล้มละลายทุจริตหรือไม่ การเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตก็เช่น ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ไม่แจ้งทรัพย์สินให้ครบถ้วน
2. หนี้กับธนาคารนั้น เวลาไม่ได้ชำระเขานั้น เพียงไม่กี่ปี ก็กลายเป็นล้าน ๆ ได้
3. หนี้ของใคร คนนั้นก็ต้องชำระ
4. รอจนกว่าจะครบ ๓ ปี แต่ถ้าเป็นคนประเภทที่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วไม่ติดตามไม่รู้เรื่องละก็ บางที ตลอดชีวิตก็ยังไม่พ้นจากการล้มละลายได้เหมือนกัน
เวลาที่ถูกฟ้องคดีนั้น ถ้ารู้จักอ่านว่าเป็นคดีอะไร เขาฟ้องเรื่องอะไร ก็จะสามารถแก้ไขให้หนักเป็นเบาได้ แต่ถ้าเอาแต่หนีอย่างเดียว ก็มักจะถูกหลอกได้ง่าย การถูกฟ้องเป็นคดีแพ่ง โดยปกติจะไม่มีทางติดคุกเพราะเป็นเรื่องคดีแพ่ง เว้นแต่จะหลบหนีหลีกเลี่ยงอย่างคุณนั่นแหละ จึงอาจติดคุกได้