จะทำอย่างไรเมื่อถูกฟ้องล้มละลาย
เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพอย่างสูง
ผมเคยกู้เงินจากธนาคาร ไทยพานิชย์จำนวนสี่ล้านบาท ต่อมากิจการผมไม่ประสบความสำเร็จทำให้ไม่มีความสามารถใช้หนี้ได้ ธนาคารจึงฟ้องบังคับคดียึดทรัพย์ที่จำนองไปขายทอดตลาด (มูลหนี้ขณะฟ้องประมาณ สี่ล้านห้าแสน)เมื่อปี 2542 ได้เงินจากการขายทรัพย์์ประมาณสองล้านสาม หลังจากนั้นธนาคารไม่ได้ติดต่อกับผมเลย
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (16 เม.ย.)มีหมายจากศาลล้มละลายกลางแจ้งว่าธนาคารได้ฟ้องล้มละลายผมต่อศาลล้มละลายกลาง โดยมูลหนี้ ณ วันที่ฟ้องล้มละลายประมาณเก้าล้านบาท โดยในหมายแจ้งว่าธนาคารคิดดอกเบี้ยจากหนี้คงเหลือหลังขายทรัพย์จำนอง ร้อยละ 19.5 ต่อปี
ปัจจุบันผมรับราชการที่ต่างจังหวัดเงินเดือนประมาณ 33,000 บาท มีภาระต้องเลี่ยงดูและส่งเสียบุตรที่กำลังศึกษาสองคน และอุปการะมารดาซึ่งชราภาพแล้ว จึงขอความกรุณาจากท่านอาจารย์ เรียนถามท่านอาจารย์ ดังนี้ครับ
1. ถ้าผมไม่ต้องการจะต่อสู้คดี และยินยอมจะชดใช้หนี้ แต่ต้องเป็นจำนวนที่ไม่น่าจะเกินมูลหนี้ที่เหลือหลังหักชดใช้จากทรัพย์ที่ขายทอดตลาดแล้ว จะมีแนวทางเป็นไปได้ไหม
2. ถ้าหากผมต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายผมจะต้องถูกออกจากราชการ ทำให้ครอบครัวต้องขาดไร้ที่พึ่ง มีหนทางไหนบ้างที่จะประนีประนอมยอมความได้
3. ถ้าท้ายที่สุดแล้วผมจะต้องสู้คดี ผมจะยกประเด็นดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บสูงเกิน หรือขาดการติดต่อจากธนาคารมานานกว่า 8 ปี เป็นเหตุผลในการต่อสู้ จะมีน้ำหนักไหม หรือมีกรณีอื่นที่เหมาะสมขอความกรุณาช่วยชี้แนะด้วย
4. จากประสบการณ์ของท่านอาจารย์เห็นว่าผมควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสม ที่ไม่ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องเดือดร้อนและเจ้าหนี้ก็ไม่ได้รับความเสียหายเกินควร
ขอความกรุณาจากท่านอาจารย์ช่วยชีแนะผม เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ จักขอบพระคุณอย่างสูง
ปล.ศาลนัดไต่สวนนัดแรกประมาณวันที่ 26 พฤษภาคม นี้ แต่ผมยื่นคำร้องขอเปลี่ยนศาลที่จะไต่สวนจากศาลล้มละลายกลาง ไปเป็นศาลที่ผมมีภูมิลำเนาอยู่
|