หาทางออก ล้มละลายและถูกยึดทรัพย์
14-9-50
เรียน ท่านอาจารย์มีชัย
ผมใคร่ขอรบกวนเวลาของท่าน กรุณาตอบคำถามและหาแนวทางแก้ปัญหาให้ผมและครอบครัวด้วยนะครับ ขออนุญาตเข้าประเด็นเลยนะครับ
ครอบครัวของผมทำธุรกิจด้าน IT ต่อมามีปัญหาถูกเบี้ยวหนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับธนาคารได้ จึงถูกบังคับคดี ยึดทรัพย์ และเตรียมการขายทอดตลาดภายใน 2 เดือนนี้ มีคำถามดังนี้ครับ
1. ผมถูกบังคับคดีวันที่ 28 ส.ค. 2550 ทรัพย์สินที่จำนองคือ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง 2 คูหา วงเงินกู้ 2.5 ล้านบาท บังคับคดีประเมิน 1.9 ล้านบาท และบ้านชั้นเดียวพร้อมที่ดิน 180 ตรว.วงเงินกู้ 2.5 ล้านบาท บังคับคดีประเมิน 7 แสนบาท ประเมินต่ำไปหรือปล่าวครับ ทำให้เราต้องเหลือหนี้ค้างชำระกับธนาคารอีกมาก มีทางคัดค้านหรือไม่ครับ และขั้นตอนต่อไปควรทำอย่างไร
2. ต้นเงิน 5 ล้านบาท + ดอกเบี้ย 5 ล้านบาท รวม 10 ล้านบาท ธนาคารจะตามสืบทรัพย์ทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ และขั้นตอนสืบ+อายัดทรัพย์จะเกิดก่อนหรือหลังฟ้องล้มละลาย อายุความแต่ละขั้นตอนกี่ปีครับ
3. ผมมีที่ดิน 200 ตรว. ต้องการโอนชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้นอกระบบ มูลค่า 8 แสนบาท จะโอนภายในเดือนนี้ ภายหลังถ้าธนาคารมีการสืบทรัพย์ สามารถไปตามยึดคืนจากเจ้าหนี้นอกระบบรายนี้หรือไม่ครับ มีขั้นตอนอย่างไรครับ
4. ผมกู้ธนาคารต้นปี 2537 ต่อมาจดทะเบียนสมรสกลางปี วันที่ 28 มิ.ย. 2537 ต่อมาซื้อบ้านและรถยนต์โดยใช้ชื่อภรรยาและผมเป็นผู้เซ็นยินยอมให้ซื้อในปี 2546 และหย่ากันในวันที่ 20 เม.ย.ปี 2550 (ก่อนถูกบังคับคดี) โดยยังมีชื่อผมเป็นผู้อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน ทรัพย์สินนี้ผมเข้าใจว่าเป็นสินสมรส (ตอนหย่ากันผมจะระบุในเอกสารการหย่าว่ายกทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้มาระหว่างการสมรสให้กับภรรยา แต่เจ้าหน้าที่ให้เขียนแค่คำว่าไม่มีอย่างเดียว เพราะเห็นว่าบ้านและรถยนต์ที่ซื้อใหม่มีชื่อภรรยาเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว และผมยกบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน ให้อยู่ในอำนาจปกครองของฝ่ายหญิง) กรณีนี้ยังคงเป็นสินสมรสหรือไม่ครับ และจะโดนอายัดทรัพย์ด้วยหรือไม่ครับ (บ้านมีเจ้าหนี้เป็นอีกธนาคารหนึ่ง รถมีเจ้าหนี้เป็นไฟแนนซ์ ผ่อนตรงเวลาตลอด)
5. กรณีในข้อ 4 ควรแก้ปัญหาอย่างไรที่จะไม่ให้ติดร่างแหไปด้วย สามารถทำหนังสือย้อนหลังเพื่อแสดงเจตนาว่า ผมไม่มีสิทธิในบ้านและรถยนต์ได้หรือไม่ครับ เพราะภรรยาของผมจดทะเบียนบริษัทใหม่และเป็นกรรมการคนเดียว และเค้าเป็นคนผ่อนชำระค่าบ้านและรถยนต์คนเดียว (ส่วนผมคอยช่วยเหลือเค้าอยู่เบื้องหลัง)
6. ภรรยาของผมมีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทเก่าที่ธุรกิจมีปัญหา จะมีผลกระทบมาถึงบ้านและรถยนต์ที่ซื้อใหม่หรือไม่ครับ ถ้าไปถอนชื่อออกจากกรรมการบริษัท จะให้ผลดีหรือไม่ประการใดครับ ( ชื่อผู้กู้ทรัพย์สินในข้อ 1 ไม่มีชื่อภรรยาอยู่ด้วยครับ และผมและพี่ชายกู้ร่วมในนามบุคคลธรรมดา )
7. ภรรยาของผมได้ซื้อสลาก ธกส. และสลากออมสิน บางส่วนนำไปค้ำสัญญาซื้อขายกับทางราชการเพื่อส่งมอบงานประมูล โดยเป็นธุรกรรมของบริษัทใหม่ของภรรยาของผม ไม่ทราบว่าจะถูกอายัดทรัพย์ด้วยหรือไม่ครับ
8. โดยสรุปแล้ว ผมไม่ได้กลัวถูกยึดทรัพย์ในข้อ 1 หรือถูกฟ้องล้มละลาย แต่กลัวจะมีผลกระทบกับบ้านและรถยนต์ที่ซื้อใหม่ และกลัวเจ้าหนี้นอกระบบต้องมาเดือดร้อนในภายหลังไปด้วยครับ
จึงใคร่ขอรบกวนอาจารย์กรุณาชี้ทางออกให้ผมด้วยครับ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง และขออนุญาตอำนวยพรให้ท่านอาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ คนที่ดีๆ มีความสุขทั้งกายและใจตลอดไปครับ |