อ้างถึง 027367

ผมได้ถามอาจารย์ว่า

ผมเป็นผู้ค้ำประกัน  โดยภรรยาไม่ได้รับรู้

เจ้าหนี้ร้องขอพิทักษ์ทรัพย์  ทั้งของผมและภรรยาในคราวเดียวกันได้หรือไม่

หรือต้องรอจนกว่าผมจะถูกศาลสั่งล้มละลาย

โดยอาจารย์ได้ขอรายละเอียด ผมจึงขอเล่าโดยย่อ ๆ ดังนี้ครับ

เมื่อปี 2538 ผมค้ำประกันบริษัทที่ผมเป็นกรรมการในการกู้เงินจากธนาคาร

เป็นเงิน 2 ล้านเหรียญอเมริการ  โดยภรรยาไม่ได้รับรู้ 

2540 เกิดวิกฤต  ไม่สามารถจ่ายหนี้ให้กับธนาคารได้  เพราะเงิน 2 ล้านเหรียญ

ซึ่งตอนที่กู้เท่ากับ 50 ล้านบาท  กลายเป็น 100 ล้านบาท เพราะการลอยตัวของค่าเงินบาท จาก ดอลล่าละ 25 เป็น 50 บาท

ในขณะเดียวกันดอกเบี้ย ซึ่งเคยเสียเดือนละ ห้าแสน (6%ต่อปี) ก็กลายเป็น

เดือนละ 2 ล้านบาท  (ดอกเบี้ยลูกค้า NPL 24 % เงินต้น  50 ล้านบาทจากดอกล่าละ 25 กลายมาเป็น  100 ล้านบาท เมื่อดอลลล่าเป็น  50 บาท)

ผมไม่ได้ต่อสู้คดีใด ๆ  เพราะเราเป็นหนี้  ก็ต้องหาทางชดใช้

เจ้าหนี้ได้ฟ้องและศาลมีคำสั่งให้ชดใช้   ซึ่งต่อมา เจ้าหนี้ได้โอนหนี้ไปให้

บสท.  บสท.ได้ตีหลักประกันเป็นการชำระหนี้  โดยที่สุดสรุปว่า

ผมในฐานะผู้ค้ำประกัน  ต้องชำระหนี้อีก 99 ล้านบาท

หนี้เงินต้น 100 ล้าน ดอกเบี้ยค้างชำระ 99 ล้าน โดยเงินต้นใช้หลักประกัน

ตีชำระหนี้  ดอกเบี้ยค้างชำระจึงมีอยู่   99 ล้าน

ผมยอมจำนน เมื่อได้รับทราบ  และเตรียมตัวเป็นคนล้มละลาย

โดยทรัพย์สินที่เหลือก็เป็นหุ้นในบรรษัทต่าง ๆ  ซึ่งไม่มีค่าอะไรเพราะ

เป็นหุ้นส่วนน้อยของบริษัท

ผมรู้ว่าภรรยาอาจแบ่งทรัพย์ที่มีอยู่ครึ่งหนึ่ง  เพื่อร่วมชำระหนี้โดยถือว่าทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างอยู่ร่วมกัน

ผมจึงอยากเรียนถามว่า   ผมและภรรยาจะถูกพิทักษ์ทรัพย์ในคราวเดียวกัน

หรือจะต้องรอจนกว่าเจ้าหนี้เขาจะได้รับชำระหนี้จากส่วนของผมก่อน

จึงเรียนถามมาด้วยความเคารพ

กมล