สวัสดีครับอาจาร์ยมีชัย
ผมขอปรึกษาครับ...ผมถูกคนรู้จักกันจนสนิทเหมือนญาติพี่น้องกันหลอกให้ไปเซ็นกู้แบ็งค์โดยมีที่ดินค้ำประกันโดยที่เค้าจะเป็นคนชำระหนี้เองเป็นจำนวนเงิน 800,000 บาท.....แต่ปรากฏว่าเมื่อปี 2542 ได้มีคำสั่งศาลมาฟ้องผมเป็นจำนวนเงิน 1,147,486.17 บาทผมก็เลยติดต่อไปหาเค้าปรากฎว่าก็ไปตามที่ศาลนัดแต่เค้าบอกว่าผมไม่ต้องไปโดยเค้าจะหาทนายไปแทนผม...จากนั้นผมโทรไปถามความคืบหน้าเค้าก็บอกว่ายินดีที่จะประนอมหนี้ กับธนาคาร......แต่มาถึงปี 2552 นี้ปรากฎว่าได้มีคำสั่งศาลส่งมาฟ้องล้มละลายกับผม อาจาร์ยครับผมต้องไปฟังตามนัดรึไม่ไปดีครับ....เพราะตลอดที่ผ่านมาก็ไม่มีงานการเป็นที่แน่นอนเลยอาศัยแต่กับคนรู้จักกันครับและถ้าจะให้ไปใช้หนี้แทนเค้าผมคงไม่มีปัญญาครับผมขอยอมตายซะดีกว่าครับ....และถ้าไปฟังศาลพิจาราณาต้องไปที่กรุงเทพใช่มั๊ยครับ เพราะหนังสือที่ส่งมาให้ไปที่ศาลล้มละลายกลางครับ....และถ้าจะไปผมกลัวไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางครับ......ผมขอขอบคุณอาจาร์ยล่วงหน้าครับและอยากให้เป็นตัวอย่างกับทุกคนนะครับ.....สนิทแค่ไหนก็อย่างวางใจคนมากไม่งั้นก็จะมีสภาพเหมือนผม.........ตอนนี้เครียตมากครับ.....
เรียน คุณสมศักดิ์
นอกจากจะเชื่อในเรื่องการไปกู้ยืมแทนเขาแล้ว เขาบอกอะไรว่าไม่ต้องไปศาลคุณก็ยังเชื่อเขาอีก เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถ้ามองตามความผูกพันทางกฎหมายแล้ว เพื่อนคุณที่เอาเงินไปน่ะไม่ได้มีอะไรผูกพันให้เขาต้องชำระหนี้เลย มีคุณคนเดียวที่เป็นลูกหนี้ และถูกฟ้อง เมื่อถูกฟ้องและคุณไม่ได้ไปศาล คุณก็ย่อมแพ้คดี จนเขาฟ้องล้มละลาย ถ้าไม่ไปอีก คุณก็จะตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น