คดีฟ้องล้มละลาย
เรียนท่าน อ.มีชัย ที่เคารพ
ด้วยดีฉันมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่สามารถหาที่พึ่งอื่นใดได้ เนื่องจากบิดาของดิฉันได้รับหมายเรียก คดีล้มละลาย เหตุเกิดเนื่องจากบิดาของดิฉันทำสัญญากู้จำนองบ้าน กับธนาคารกรุงเทพฯ เป็น เงินต้น 670,339.08 + ดอกเบี้ยร้อยละ 8 แต่ด้วยประสบปัญหาทางการเงิน จึงไม่ได้ผ่อนชำระ ตั้งแต่ปี 29 มิถุนายน 2539
ต่อมาทางธนาคารก็ฟ้องศาล บังคับคดี และบิดาของดิฉันก็เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามเอกสารศาลแพ่ง 18 สิงหาคม 2543 แจ้งเป็นหนี้โจทย์ตามฟ้องจำนวนถึง 1,181,012.34 บาท (เป็นยอดเงินต้นและดอกเบี้ย) + ค่าฤชา 3,875 + ดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี นับตั้งแต่ 25 ธ.ค 42 3 ธ.ค 48 =318,673.13 บาท รวมเป็นหนี้ตามหมายนี้ 1,503,563.47 บาท ซึ่งการณ์นี้ทางกรมบังคับคดีได้ยึดทรัพย์จำนองบ้านดังกล่าว และออกขายทอด และขายได้แล้ว เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2548 โดยทางเจ้าหนี้-ธนาคารกรุงเทพ ได้รับหนี้จำนวน 527,071 บาท จึงเหลือยอดหนี้ ณ วันที่ 3 ธ.ค 48 ตามหมายศาลทั้งสิ้น 976,492.47 บวกดอกเบี้ยอีก ร้อยละ 8 นับจากวันที่ 4 ธ.ค.48 7 พ.ค 52 จำนวน 183,801.47 บาท รวมภาระหนี้ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2552 (วันฟ้องล้มละลาย) เป็นเงิน 1,160,293.94 บาท ตามหมายศาลฟ้องล้มละลาย ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2552
โดยตั้งแต่เซ็นสัญญาประนีประนอมนั้น ปี 2543 บิดาของดิฉันก็ไม่สามารถหาเงินผ่อนชำระจ่ายตามที่ตกลงได้ เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินเช่นกันและตัดสินใจว่ายอมแล้ว
จากการได้รับหมายศาล แจ้งฟ้องบิดาของดิฉันเป็นคนล้มละลาย เลยทำให้ดิฉันทุกข์ใจ จึงอยากจะขอเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้
1. การที่ได้รับหมายศาลฟ้อง ให้บิดาของดิฉันเป็นบุคคลล้มละลาย หากบิดาของดิฉันไม่ไปศาลในวันกำหนดนัด จะส่งผลอะไรต่อบิดาของดิฉันบ้างคะ
2. และตัวดิฉันผู้เป็นบุตร ต้องมีภาระผูกพัน กับการณ์นี้ด้วยหรือไม่ โดยการเซ็นกู้ครั้งนั้น มีบิดาของดิฉันเป็นผู้เซ็นกู้เพียงคนเดียว
3. ตามทะเบียนบ้าน บิดาของดิฉัน มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ดิฉันเป็นคนซื้อและผ่อนชำระอยู่ โดยดิฉันเป็นเจ้าบ้านแต่เพียงผู้เดียว จากหมายศาลฟ้องล้มละลายนั้นจะมีผลต่อการยึดทรัพย์ในบ้านที่ดิฉันผู้เป็นบุตรหรือไม่คะ
4. หากกรณีเราไม่มีปัญญาจะผ่อนชำระหนี้อันพอกพูนด้วยดอกเบี้ยอันโหดร้ายนี้ เราควรปล่อยให้ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ หรือมีทางออกอื่นที่ดีกว่าคะ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าในความกรุณาค่ะ
ภัสร์นลิน
|