ดิฉันหย่าขาดกับอดึตสามีมา 10 ก่วาปีแล้ว เขาได้เอาบ้านที่ใส่ชื่อดิฉันตอนแต่งงานกันไปค้ำประกัน และยืมเงินแม่ดิฉันไป 750.000 บาท โดยจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน เพื่อนำไปซื้อห้องแถวทำกิจการ 2 ห้อง ต่อมาขาดทุนหมดเพราะติดการพนัน ผู้หญิง หลังจากนั้น 2 ปี ก็เลิกกัน ดิฉันเอาลุกมาเลี้ยงเองโดยกลับมาอาศัยอยู่กับคุณแม่ ปี 2549 เขาได้เสียชีวิตลง แต่ตอนนี้มีหมายศาลมาจะฟ้องดิฉันล้มละลายวันที่ 11 ส.ค 52 และมีหมายศาลฟ้องลูกชายว่าเป็นทายาทของจำเลยที่หนึ่ง ที่ตายไป ว่าเป็นลูกหนี้ ที้งหมดที่อดึตสามีทำมา แต่เราสองคนต้องมาถูกฟ้อง ทั้งที่บ้านนั้นเมือเลิกกันมาดิฉันกับลูกก็ออกมาอยู่กับคุณแม่ ปัจจุบันดิฉันเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงาน แต่งงานกับสามีใหม่ก็ดูแลดิฉันกับลูกตลอดมา แต่ยังคงอาศัยอยู่กับคุณแม่ คุณแม่รักและ สงสารหลานชายคนนี้มาก และอยากซื้อบ้านที่กำลังถูกยึดกลับคืนมาให้หลาน ( เป็นที่ระลึกของพ่อเขา เพราะพ่อเขานอนเสียชีวิตในบ้านนั้น และมีจดหมายสั่งเสียไว้ก่อนตาย ถึงลูก และต้องบอกว่าแม้แต่ศพยังทิ้งไว้ให้ดิฉันและลุกทำด้วย เพราะไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้เลยนอกจากหนี้ ) ขอเรียนถามว่า
1.ถ้าคุณแม่ดิฉันจะไปขอซื้อบ้านคืนจากบริษัท ให้หลานชาย โดยใส่ชื่อหลานชายเป็นเจ้าของบ้านเลย จะทำได้ไหมค่ะ เพราะหลานได้ถูกฟ้องเป็นทายาทจำเลยที่ตายไปต่อ คุณแม่เลยเกรงว่าเดี๋ยวซื้อไปหลานชายก็จะถูกเขายึดกลับไปอีก
2. ดิฉันอ่านในคำถาม บอกว่า ผู้ที่ถูกฟ้องล้มละลาย จะไปทำวีซ๋าไปเมืองนอกไม่ได้ เพราะสามีดิฉันจะพาดิฉันและลูกไปเที่ยวต่างประเทศปีหน้า ดิฉันกับลูกก็ไปไม่ได้แล้วหรือค่ะ
3. วันข้างหน้า ลูกชายดิฉันจะถูกฟ้องล้มละลายเหมือนดิฉันหรือเปล่าค่ะ เพราะตึกแถวที่ถูกยึดเป็นชื่อของพ่อเขาที่ตายไปค่ะ ที่มีหมายศาลมาถึงชื่อลูกชายว่าเป็นลูกหนี้แทนพ่อเขานะค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
1. ถ้าจะไปซื้อมาก็ยังไม่ควรใส่ชื่อหลาน ควรสู้คดีที่ถูกฟ้องเสียให้เรียบร้อยก่อน เพราะตามกฎหมายเขาไม่ต้องรับผิดในหนี้ของบิดา หรือสามี (ในกรณีของคุณ) เกินมรดกที่ได้รับมา หากไม่ได้รับมรดกมาเลยก็ไม่ต้องรับผิดเลย เรื่องนี้ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะอาจถูกศาลตัดสินโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับมรดกได้
2. ถ้าเพียงแต่ถูกฟ้อง ก็ยังไม่ถูกห้าม
3. เจ้าหนี้เขาก็ต้องฟ้องทายาทให้รับผิดชอบ แต่ทายาทก็สามารถไปสู้คดีเพื่อจะได้รับผิดเพียงไม่เกินมรดกที่ได้รับมาได้
ทั้งคุณและลูกควรปรึกษาทนายความ ไม่ควรนิ่งนอนใจ