ปรึกษาคดีล้มละลายและสินสมรส สวัสดีครับอาจารย์
รบกวนปรึกษาคดีล้มละลายนะครับ
ผมเป็นจำเลยที่ 1 ,พี่ชายที่ 2 ในฐานะผู้กู้ และ คุณแม่ที่ 3 ในฐานะผุ้ค้ำประกัน โดยกู้เงินจากธ.ทหารไทย เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 2 คูหา เพื่อทำธุรกิจ ต่อมานำบ้านและที่ดินของคุณมากู้วงเงินเพิ่มในสัญญาเดียวกัน แต่ประสบปัญหาถูกลูกค้าโกงเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจไปไม่รอด และธนาคารได้ฟ้องจนยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ดังนี้
- เงินต้น 5,158,502.03 บาท - ดอกเบี้ยค้างชำระ 8,898,825.23 บาท (เริ่ม 24/10/47 - 3/4/56) - รวมหนี้ 14,057,327.26 บาท โดยขายทอดตลาดได้ 3,447,000 บาท (7/10/57) และธ.ได้ฟ้องล้มละลาย ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพิทักษ์ทรัพย์ของกรมบังคับคดีครับ
รบกวนถามดังนี้ครับ
1. ถ้าดูเฉพาะเงินต้นจะเหลือหนี้อีก 1,711,502.03 บาท ซึ่งผมจะลองขอไกล่เกลี่ยชำระไม่เกิน 3-4 แสนบาท เพื่อให้จบกันไป(แต่ก็ค่อนข้างเชื่อว่าธ.จะไม่ยอม) ถ้าไม่ยอมผมก็ยินดีล้มละลาย - อยากทราบว่า: 1.1 พอครบ 3 ปีและได้ปลด ธ.ทหารไทยจะมีสิทธ์มายึดทรัพย์ที่ผมสร้างขึ้นมาใหม่ในภายหลังหรือไม่ครับ ถ้าทำได้มีกำหนดเวลาเท่าไรครับ
2. ปัญหาใหญ่สุดตอนนี้คือ อดีตภรรยาและลูกอีก 2 คน จะไม่มีที่อยู่ เพราะบ้านเดี่ยว 60 ตรว.ที่กำลังผ่อนกับธ.ไทยพาณิชย์ ราคา 5.6 ล้านบาท ซื้อโดยมีชื่ออดีตภรรยาคนเดียวเป็นผู้กู้ ในปี 2546 และหย่าขาดกันในปี 2550 เหลือต้นอีก 4 ล้านบาท ผมมีชื่อเป็นผู้อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านด้วย ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์บอกว่าเป็นสินสมรส ต้องยึดมาขายทอดตลาด - อยากทราบว่า: 2.1 มีผลให้อดีตภรรยาต้องติดเครดิตบูโร บัตรเครดิตต้องถูกยกเลิกและเรียกหนี้คืน และประสบปัญหาในการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินใช่มั๊ยครับ แก้ไขอย่างไรได้บ้างครับ และควรหยุดส่งค่างวดไว้ก่อนหรือไม่ครับ 2.2 มีวิธีใดที่จะทำให้ไม่เป็นสินสมรสมั๊ยครับ เพราะเค้าเป็นคนผ่อนเองตั้งแต่ต้น ผมแค่รับรู้ 2.3 ถ้าต้องถูกขายทอดตลาด จะแบ่งกันยังงัยครับ ระหว่าง 1.SCB 2.อดีตภรรยา 3.TMB เรียงลำดับความสำคัญถูกมั๊ยครับ (เพราะอดีตภรรยาเค้าก็ต้องยื่นเรื่องกันส่วน) ดูๆแล้วผมเชื่อว่าไม่เหลือเงินถึงธ.ทหารไทยแน่ๆ แต่มีผลให้อดีตภรรยาต้องเสียประวัติ 2.4 ถ้าอดีตภรรยาเข้าไปสู้ราคาเอง และซื้อได้ในราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท ก็ต้องโดนธ.ไทยพาณิชย์เรียกหนี้ค้างชำระเพิ่มใช่มั๊ยครับ แล้วตรงสิทธิที่กันส่วนครึ่งหนึ่งจะได้คืนหรือต้องเอามาคำนวณอย่างไรครับ
ขอบพระคุณมากครับ |