สามีดิฉันเคยทำงานกับบริษัทใหญ่ แต่ลาออกมาเพราะน้องสาวและน้องเขยชวนทำธุรกิจส่วนตัว เขามีเงินพอประมาณน้องสาวชวนไปดาวน์รถกะบะป้ายแดงทันทีอ้างว่าใช้ในการทำงาน ซึ่งตอนแรกพวกเขาบริหารกันเองแบบลุ่มๆดอนๆ เมื่อสามีดิฉันเข้าไปธุรกิจก็ดีขึ้นเพราะเขารู้จักพรรคพวกมาก ช่วงนั้นน้องสาวให้สามีดิฉันรูดบัตรเครดิตตลอดจนเต็มวงเงินทุกบัตร จำนวน 4 ใบ (เขาทำบัตรเสริมให้น้องด้วย) หลังจากนั้นก็ซื้อรถเก๋งมือสองมาอีกคันใช้ชื่อสามีดิฉันเหมือนเคย หลังจากนั้นรถกะบะหาย ส่วนรถเก๋งน้องสาวต้องการขายจึงให้พี่ชายเซ็นต์ยินยอม แล้วเขาก็เอาเงินที่ได้ไปออกรถใหม่ใช้ชื่อตัวเอง หลังจากนั้นสามีดิฉันก็ได้รับจดหมายทวงหนี้จากบัตรเครดิต ซึ่งเกิดขณะที่ทำธุรกิจส่วนตัวกับน้องสาวน้องเขย ตอนนี้สามีดิฉันได้ทยอยผ่อนจนหมดแล้วค่ะ ดิฉันอยากทราบว่าประวัติด้านการเงิน (black list) จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ถ้าเราเคลียร์เงินเรียบร้อยแล้ว และเราจะสามารถทวงเงินจากน้องสาวได้หรือเปล่าคะ เพราะเงินที่จ่ายไปในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ลงทุนกับธุรกิจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะซื้อรถ 2 คันหรือรูดบัตร 4 ใบเต็มวงเงิน เฉพาะบัตรเครดิตก็ 2 แสนกว่าบาทแล้ว ปัจจุบันสามีดิฉันแยกตัวออกมาแล้ว ธุรกิจดีขึ้น ครอบครัวนั้นฐานะดีมาก ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไม่เคยคิดจะคืนเงินพี่ชายเลยค่ะ
ประวัตินั้นก็จะมีอยู่เรื่อยไป เพราะเป็นรายการเป็นหนี้และการชำระหนี้ รวมทั้งการผิดนัด แต่เมื่อคุณได้ชำระหนี้จนหมดแล้ว ประวัตินั้นก็ไม่เสียอะไรนัก คงไม่เป็นอุปสรรคในการขอเครดิตมากนัก ถ้ามีหลักฐานการเงินดีขึ้นก็จะยิ่งไม่เป็นปัญหา ส่วนเงินที่ชำระแทนน้องไปนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่เขานำไปใช้ส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวกับกิจการที่ร่วมกันทำ เขาก็ต้องนำมาชำระให้ หรือมิฉะนั้นคุณก็ต้องไปคิดเอาจากกิจการที่ร่วมกันทำ แต่ทั้งหมดจะทำได้มาน้อยเพียงไรก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานต่าง ๆ