ไฟแนนท์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ขอเรียนถามครับ บิดาผมซื้อรถโดยผ่อนกับไฟแนนท์ โดยมีน้องชาย และอาเป็นผู้ค้ำประกัน โดยราคารถ 588500 บาท ดาวน์ 58850 บาทยอดจัด 529650 ดบ. 6.40 % ระยะเวลา 60 งวด ผ่อนเดือนละ 11653 บาท ( ดอกเบี้ยคิดเรียบร้อยแล้ว 169530 บาท รวมกับยอดจัด ก็ 699180 บาท ) ผ่อนไปได้ 11 เดือน เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยอดผ่อนไป 133448.19 บาท ก็ไม่สามารถผ่อนต่อไปได้ ผมก็ติดต่อบริษัท ฯ ขอผ่อนชำระให้น้อยลง บริษัทก็บอกไม่ได้ ท้ายสุดส่งเจ้าหน้าที่มาที่บ้าน บอกว่าเห็นใจ จะจัดการผ่อนให้ได้ถูกลง แต่ให้นำรถไปเข้าตรวจสภาพที่โชว์รูม ขณะนั้น ผมขาดส่งงวดที่ 3 อยู่ ครึ่งหนึ่ง น้องชายก็ขับรถไป พอไปถึงก็ถูกหลอกให้เซนต์มอบคืนรถ อ้างว่าเป็นหลักฐานการมอบใว้ให้ตรวจสภาพ ก่อนทำรีไฟแนนท์ คนบ้านนอกไม่มีความรู้ก็เชื่อเขา เพราะคิดว่าถ้าเขาจะมายึดก็คงยึดไปแล้ว แต่เรื่องมีอยู่อีกว่า บริษัทนำรถไปทำการขายทอดตลาดเอง ไม่ได้บอกว่าขายที่ไหน และจะขายยังไง มีหนังสือมาแจ้งหลังจากยึดไปได้ประมาณ 15 วันว่า รถขายแล้ว ได้เงิน 334579.44 บาท แจ้งให้นำส่วนที่ติดค้างบริษัทอีก 2 แสนกว่าไปจ่าย หลังจากนั้นประมาณ 20 วันได้ ก็มีหมายศาลว่าบริษัทฟ้องพ่อ น้อง และอา เป็นจำเลย ให้ชำระเงินที่สองแสนกว่า ที่ว่านั้น ผมจึงมีปัญหาเรียนถามว่า
1. กรณ๊นี้บริษัทคิดดอกเบี้ยไปแล้ว โดยคิดเต็ม 5 ปี แล้วให้ผ่อน เมื่อรถถูกยึดตอนเราผ่อนได้ แค่ 11 เดือนภาระดอกเบี้ยที่คิดไปแล้วเราต้องรับผิดชอยไหมครับ และ นำยอดที่เหลือไปคิดเป็นเงินต้นคิดดอกเบี้ยอีกร้อยละ 15 ต่อปี(ผมอ่านในหมายศาลนะครับ ถือเป็นการคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อนหรือเปล่าครับ
2.บริษัททำอย่างที่ผมเล่าให้ฟัง ทำถูกขั้นตอนตามกฏหมายหรือเปล่าครับ
3.ขายทอดตลาดต้องแจ้งบอกกับผู้ซื้อด้วยหรือเปล่าครับ หรือว่าจัดการขายได้เลยโดยไม่ต้องบอก
4.ตอนนี้ผมกับครอบครัวจะทำอย่างไรต่อครับ เพราะมีหมายศาลให้ไปขึ้นศาล
ครอบครัวก็ยากจน เงินทองหายาก ผมทำงานส่งพ่อแม่คนเดียว ไม่รู้ทำไงครับ
รบกวนอาจารย์ตอบด้วยนะครับ ผมได้webนี้มาจากเพื่อน แนะนำให้รบกวนอาจารย์นะครับ |