หลอกยืมเงินแล้วบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย
เรียน อาจารย์ ที่เคารพคะ
ดิฉันเป็นคนที่ตรงๆ คิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเหตุและผล เพื่อนของดิฉันคนหนึ่งเคยมาขอให้ดิฉันช่วยหยิบยืมเงินให้กับเพื่อนของเขาอีกทอดหนึ่งเป็นมูลค่ากว่า10,000 บาท ดิฉันได้ปฏิเสธและบอกกล่าวเขาไปว่าถ้าไม่ใช่ธุระจำเป็นของครอบครัวของเขาอย่างที่สุดอย่าได้นำหนี้มาให้เราช่วยแบกรับภาระ
ดังนั้นในเดือน มิถุนายน 2550 เขาจึงมาโกหกดิฉันอีกครั้งว่าแม่ของเขามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เงินเพื่อซื้อที่ดินที่อยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดเป็นเส้นทางเดินเข้าที่ดินของเขาที่อยู่ด้านหลัง เนื่องจากเจ้าของที่ด้านหน้ากำลังจะขายที่ดิน ส่วนตัวของเขาเองนั้นก็กำลังมีหนี้เครดิตอยู่กับบริษัทอีซี่บาย ไม่สามารถกู้ได้อีก จึงขอให้ดิฉันให้ชื่อตัวเองเป็นธุระดำเนินการกู้ให้แล้วตัวเขาจะเป็นผู้จ่ายเงินค่าหนี้เหล่านั้นเอง ซึ่งมีมูลค่า 30,000 บาท ดิฉันเห็นใจจึงยอมที่จะดำเนินการให้ แต่ก็ได้บอกกล่าวไปแล้วว่าถ้าหากเงินจำนวนนี้ไม่ได้นำไปใช้เพื่อการอย่างที่เขาได้เล่ามาก็ขอให้นำมาคืนดิฉัน เนื่องจากหลังปีใหม่ คือปี 2551 ดิฉันก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนนี้ เขาก็รับปากว่าจะจ่ายให้ภายในสิ้นปี คือ ปี 2550 โดยการหยิบยืมนั้นเป็นการรับรู้ระหว่างเรา 2 คน และไม่ได้เขียนเป็นหนังสือสัญญาใดๆ และในเดือนธันวาคม 2550 ทางบริษัทอีซี่บายก็โทรมาแจ้งดิฉันว่าให้ไปเปลี่ยนบัตรที่มีอยู่เดิมเป็นบัตรกดเงินสด ณ ขณะนั้นดิฉันมองว่าแม้เป็นชื่อของดิฉันก็จริงแต่เขาเป็นผู้ใช้เงินและใช้หนี้ การที่จะมีบัตรกดเงินสดก็ควรจะบอกกล่าวเขา พอเขาทราบเขาก็เดินทางไปรับบัตรพร้อมดิฉัน แล้วเขาก็ขอบัตรไปจากดิฉันโดยให้เหตุผลว่าไว้ชำระค่าบริการจะได้สะดวก ดิฉันไม่เคยใช้บัตรนี้จึงไม่ทราบว่ามันมีความสะดวกในเรื่องใดบ้างจึงให้เขาไปและกำชับว่าไม่ให้กดเงินจากบัตรนี้ ตัวเขาเองก็รับปากสัญญาอย่างเป็นมั่นเหมาะ แต่สุดท้ายเขาก็แอบไปกดเงินออกมาใช้โดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ ดิฉันจึงโทรไปตำหนิและบอกให้ส่งบัตรกลับคืนมาเขาก็ไม่ยอมคืนและแอบกดอีกรวมแล้วเป็น 3 ครั้ง ดิฉันทนไม่ไหวจึงไปอายัดบัตรไว้
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เขาก็โทรมาเยือมอีก 30,000 บาท แต่ดิฉันให้ยืม 5,000 บาท เขาก็สัญญาอีกว่าจะใช้คืนสิ้นเดือนมีนาคมอีก
สุดท้ายเขาไม่คืนตามที่สัญญาไว้เลย เขาจะไปจ่ายเฉพาะเงินขั้นต่ำกับบริษัทอีซี่บายเท่านั้น
และที่สำคัญเขาไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้แม่จริงๆ แต่เอาไปให้คนอื่นยืมต่อพอดิฉันทวงเขาก็ให้ไปทวงถามเอาเองคะ
ดิฉันอยากเรียนถามท่านดังนี้คะ
1. ถ้าหากดิฉันไม่ได้เขียนสัญญาเงินกู้กับเขา ดิฉันยังพอมีช่องทางได้เงินคืนบ้างไหมค่ะ
2. ถ้าหากดิฉันให้เขาเขียนสัญญาเงินกู้ในภายหลังแต่ลงวันที่ย้อนไป ณ วันที่เขารับเงินจากเรามาจะได้ไหมค่ะ แล้วอย่างนี้จะถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่
3. เราจะฟ้องร้องเขาให้ตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวได้หรือไม่ค่ะถ้าหากว่าเรารับรู้มาว่าเขามีหนี้มากกว่าเงินเดือนที่ตนได้รับถึงโดยประมาณ 7 เท่า แต่หนี้ทุกหนี้เป็นหนี้นอกระบบมีสัญญาเงินกู้บ้าง และไม่มีบ้าง เราทำได้หรือไม่ค่ะ
สุดท้ายนี้ดิฉันขอขอบคุณท่านมานะที่นี้ที่ได้ให้คำแนะนำอย่างดียิ่งสำหรับดิฉันค่ะ |