เรียนท่านอาจารย์มีชัย
ดิฉันขอรบกวนถามข้อกฎหมายตามรายละเอียดดังนี้
ปี 2546ดิฉันกู้เงินธกส.มาทำสวน250,000 บาท ปัจจุบันกู้เพิ่มเป็น 450,000 บาท ,ปี 2548 ดิฉันเข้าทำงานในร้านแห่งหนึ่ง และผู้จัดการได้ให้ดิฉันเซ็นต์ค้ำประกันรถยนต์ให้ลูกค้าโดยรับรองแข็งขัน ต่อมาปลายปีนั้นดิฉันก็ต้องออกจากงาน จนเมื่อเมษายน 2551 มีจดหมายจากทนายความให้ชำระหนี้ และเมื่อปลายเดือนสิงหาคมนี้มีหมายศาลมาที่บ้าน(สุราษฎร์ธานี)ให้ไปศาลแขวงปทุมวันเพื่อไกล่เกลี่ย เป็นอันว่าดิฉันโดนฟ้องศาลเป็นผู้ค้ำประกันคนที่2 มูลหนี้ 253,000 บาท ดอกเบี้ย 7.5 % ต่อปี โดยที่ไม่รู้จักผู้ซื้อเลย และดิฉันเพิ่งจะเริ่มทำสวนยังไม่มีรายได้ ขอเรียนถามอาจารย์มีชัยดังนี้
1. ดิฉันควรทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้แค่ส่ง ธกส.ยังไม่พอเลย
2. ศาลจะสั่งยึดทรัพย์(สวน)ที่จำนองธกส.ได้หรือไม่
( ดิฉันไม่มีทรัพย์สินอื่นใดนอกเหนือจากนี้ และไม่สามารถติดต่อผู้ซื้อและไม่สามารถติดตามรถมาได้(ไม่ทราบไปอยู่ที่ไหน))
เรียน คุณปริศนา
1. จะไปทำอะไรได้ นอกจากไปศาลเพื่อดูว่าจะประนีประนอมได้อย่างไรบ้าง
2. ถ้าหนี้ที่มีอยู่กับ ธกส. มีจำนวนน้อยกว่าราคาที่ดิน เขาก็มายึดเอาไปขายทอดตลาดได้ แต่ ธกส ซึ่งเป็นผู้รับจำนองก็จะต้องได้รับการชำระหนี้ก่อน เงินเหลือจึงจะไปชำระหนี้ที่เกิดขึ้นจากการค้ำประกัน
อันการค้ำประกันนั้น ส่วนใหญ่คนที่เข้าค้ำประกันก็จะไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับลูกหนี้ เพราะตัวผู้ค้ำประกันเองก็ไม่ค่อยได้เห็นถึงความสำคัญมากนัก นึกแต่เพียงว่า แค่เซ็นชื่อนิดเดียวเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่า ภาระผูกพันนั้นใหญ่หลวงนัก ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ ไม่ว่าจะมั่งมีเงินทองมากน้อยเพียงใด เจ้าหนี้เขาก็มาเอาจากผู้ค้ำประกันเสมอ