สวัสดีค่ะท่านมีชัย

   จะขอเรียนปรึกษาเรื่องของป้าของดิฉันค่ะ  เนื่องจากวันนี้ได้รับหมายศาลจังหวัด ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 ว่าป้าได้ตกเป็นจำเลยที่ 3 จากจำเลยทั้งหมด 6 คน เนื่องจาก การเข้ากลุ่มกู้เงินของ ธ.ก.ส  ตั้งแต่ปี 2543 เนื่องจากผู้กู้ไม่ชำระเงิน โดยผู้กู้มีการค้ำประกันที่ดินไว้หนึ่งแปลง โดยในหมายศาลแจ้งว่าให้ป้าไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การสืบพยาน ซึ่งป้าตกเป็นจำเลยที่สาม  โดยศาลออกหมายเรียกเพื่อ

 1. ให้จำเลยที่ 2-5 ร่วมกันชำระเงินกับจำเลยที่ 1 ในหนี้ดังกล่าวข้างต้น 103,228.75 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 13 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 50,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

2. ให้จำเลยมอบสอ่งของหากจำเลยทั้งหกไม่ชำระเงินให้ครบถ้วนแก้โจทก์ให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ ของจำเลยทั้งหกออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์

3.ให้จำเลยทั้งหกชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลแทนค่าทนายความแทนโจทก์ด้วย

คำถาม 

1.เนื่องจากว่าขณะนี้ป้าอาศัยอยู่ต่างประเทศกับลูกสาวที่ไปมีครอบครัวอยู่ที่นั่น  อีกทั้งยังมีความพิการเดินไม่สะดวกจากอุบัติเหตุขาหักจนพิการ หากมาขึ้นศาลไม่ได้ ต้องทำอย่างไร ด้วยว่าเพิ่งไปอยู่กับลูกสาวยังไม่ได้พลเมืองของต่างประเทศ หากกลับมาตอนนี้ก็จะกลับไปอีกลำบาก

2.ป้าของดิฉันต้องดำเนินการต่อจากนี้ไปอย่างไรบ้างค่ะ เพื่อให้จบเรื่องนี้ ถ้าป้าไม่ชำระหนี้ตามที่ศาลระบุให้จ่ายร่วมกับจำเลยอื่นจะเป็นอย่างไร เนื่องจากไม่เคยมีประสบการเรื่องนี้มาก่อนเลย เครียดกันทั้งบ้านเลยค่ะ ต้องจ้างทนายหรือไม่อย่างไร

ขอขอบพระคุณค่ะ

๑. ถ้าจะสู้คดี ก็อาจทำหนังสือแต่งตั้งทนายความ ให้ทนายความเขาไปดำเนินการแทนได้ หรือจะมอบอำนาจให้คุณเพื่อดำเนินการแทนในศาลรวมทั้งการตั้งทนายความแทนก็ได้  แต่ถ้าไม่คิดจะสู้คดี ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ควรจะคอยติดตามว่าศาลตัดสินว่าอย่างไร

๒. อย่างที่บอกในข้อ ๑ นั้นแหละ  ส่วนการจ้างทนายความนั้น ถ้ารู้กฎหมายจนว่าความเองได้ก็ไม่ต้องจ้างก็ได้ แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องจ้าง เว้นแต่จะไม่สู้คดี