ดิฉันเคยอนุญาตให้รุ่นน้องที่ทำงานเก่าใช้ชื่อเป็นบุคคลอ้างอิงในสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตของเพื่อนเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เพื่อนก็ผ่อนชำระหนี้ด้วยดีมาตลอดจนหลังน้ำท่วมปี 2554 เขาเริ่มมีปัญหาทางการเงิน ธนาคารต่างๆได้โทรมาหาดิฉันถามหาเขาว่าติดต่อเขาไม่ได้และฝากบอกว่าให้ดิฉันติดต่อเขาให้ได้ และต้องรีบมาชำระหนี้ให้หมดก่อนโดนฟ้อง ดิฉันเป็นห่วงเพื่อนเลยรีบโทรไปบอกเขาๆก็ว่าจะดำเนินการให้ หลังจากนั้น 1 เดือนดิฉันก็ทราบว่าเขาออกจากงานแล้วและติดต่อเขาไม่ได้เลย

          ดิฉันอยากเรียนถามอาจารย์ดังนี้ค่ะ

1. ดิฉันอนุญาตให้เขาใส่ชื่อแต่ไม่ได้เซ็นเอกสารใดๆ แบบนี้ถือว่าดิฉันเป็นผู้ค้ำประกันหรือไม่คะ

2. ถ้าเขาหนีไปจริงๆธนาคารจะมาฟ้องเอาผิดกับดิฉันได้หรือไม่คะ

3. ดิฉันเบื่อมากๆกับการต้องรับโทรศัพท์แบบนี้ ถ้าดิฉันเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เขาสามารถมาหาที่บ้านดิฉันได้หรือไม่คะ

4. ดิฉันเกษียณก่อนอายุมาประมาณ 1 ปีแล้ว ไม่ทราบว่าเจ้าหนี้เหล่านั้นจะมาทวงเงินจากดิฉันหรือไม่คะ

5. สุดท้ายดิฉันห่วงรุ่นน้องคนนี้ค่ะ เขาเป็นคนดีมากๆ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ทำงานดี แต่เขามีภาระเยอะ สามีไม่ได้ทำงานลูกก็ยังเล็ก แถมโรคประจำตัวก็มากและก็ยังต้องดูแลพ่อแก่ๆด้วย เขาออกจากงานประจำแบบนี้คงไปทำงานที่อื่นไม่ได้และก็คงไม่สามารถชำระหนี้สินพวกนี้ได้เลย ดิฉันเองก็คงไม่สามารถชำระหนี้แทนเขาได้เพราะก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้น ห่วงว่าเขาจะโดนอะไรบ้างน่ะค่ะ ถ้าดิฉันสามารถติดต่อเขาได้ อาจารย์มีคำแนะนำให้เขาไหมคะ เป็นห่วงคนดีๆจะหายจากโลกนี้ไปเพราะพิษเศรษฐกิจแท้ๆ 

          ดิฉันกราบเรียนรบกวนอาจารย์เท่านี้ค่ะ กราบขอบพระคุณในความเมตตาของอาจารย์ และขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ที่ได้ช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์หลุดพ้นจากความทุข์ทางใจเหล่านี้ค่ะ ดิฉันไม่มี email ส่วนตัวค่ะ เคยมีแต่ของที่ทำงานเก่าตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้วค่ะ จะเข้ามาติดตามในเว็ปของอาจารย์เองได้หรือไม่ค่ะ

1. ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้เขาใส่ชื่อคุณในฐานะอะไร  เพราะตามปกติในการขอบัตรเครดิต ไม่มีเหตุอะไรต้องอ้างอิงใครให้เหนื่อยยาก ลักษณะของคุณน่าจะเป็นการยอมให้เขาใช้ชื่อคุณไปทำบัตรเครดิต หรือมิฉะนั้นคุณก็คงเป็นคนค้ำประกันเขา ทางที่ดีควรติดต่อกับเจ้าหนี้ ถามเขาว่า หนี้ที่เขาตามอยู่นั้น ใครเป็นลูกหนี้ และใครเป็นคนค้ำประกัน คุณอยู่ในฐานะอะไร

2. จะฟ้องได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นอะไรในหนี้นั้น ถ้าเป็นลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน เขาก็มาตามทวงเอาจากคุณ

3. ก่อนจะเบื่อ ควรรู้เสียก่อนว่าคุณอยู่ในฐานะอะไร  เพราะถ้าเป็นลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน ก็รีบ ๆ หาเงินไปชำระเขาเสีย ก่อนที่ดอกเบี้ยจะเพิ่มพูนจนท่วมต้น เพราะถ้าหนี้นั้นถึงล้านเมื่อไรเขาก็ฟ้องล้มละลายคุณได้ และเมื่อล้มละลายแล้ว รายได้และทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกอายัดและขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินไปชำระหนี้ แต่ถ้าหนี้ไม่ถึงล้าน เขาก็ยังคงฟ้องยึดทรัพย์สิน บ้านช่องห้องหอ ได้อยู่ดี เพียงแต่เงินบำนาญอาจได้รับยกเว้นบ้าง เมื่อจ่ายหนี้แทนเขาหรือถูกยึดทรัพย์แล้วก็จะได้เป็นบทเรียนว่า ชื่อของตัวเองนั้น แม้ไม่มีคุณค่า (อย่างที่คุณอาจจะเคยนึกว่าไม่เป็นไร ให้ชื่อไปเท่านั้น) แต่มันมีราคาในฐานะเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีจำนวนอันจำกัด ต่อไปจะได้ไม่ให้ใครเอาชื่อไปใช้ได้ง่าย ๆ

4. ดูคำตอบข้อ 2.

5. อย่างเพิ่งไปห่วงเขาเลย ควรห่วงตัวเองให้มากไว้ เพราะหนี้นั้นอาจจะเป็นของคุณในฐานะที่เป็นคนใช้บัตรเครดิต หรือผู้ค้ำประกันก็ได้  ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในฐานะทั้งสองเมื่อไร ก็ค่อยไปห่วงเขา  แต่ถ้าคุณอยู่ในฐานะอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทันทีที่คุณเอาเงินไปชำระให้เจ้าหนี้ น้องคนนั้นเขาก็หมดทุกข์ ส่วนคุณจะมีทุกข์อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่คุณจะแก้ไขเอาเองได้ ไม่ต้องไปกังวลกับน้องคนนั้นอีก  เมื่อไรคิดจะเอาเงินคืนจากเขา ก็ค่อยมานั่งคิดว่าจะสมควรทำบุญให้เขาไป หรือจะไปตามทวงเอาจากเขา