เนื่องจากมีการซื้อรถยนต์ป้ายแดง โดยมีผู้ค้ำประกัน 2 คน     ผู้ซื้อผ่อนไปแล้วประมาณ 3 เดือนและหลังจากนั้นไม่มีความสามารถ ผ่อนชำระต่อไปได้อีก รถยนต์ที่ซื้อไปก็ได้ถูกยึดคืนไปแล้วเนื่องจากขาดส่ง 3 เดือน

ได้รับแจ้งจากทางธนาคารให้ชำระค่าเสียหาย อันเกิดจาก(การขาย/การประมูลขายรถยนต์) และยังมีค่าเสียหายตามสัญญาค้างชำระอยู่เป็นจำนวนทั้งสิ้น 193,400.01 บาท  ธนาคารมีให้เลือก 3 ทาง

(1.) ชำระคราวเดียว 58,020 บาท

(2.) ชำระงวดแรก 19,340 บาท ที่เหลือชำระ 6 เดือน ๆ ละ 12,893 บาท 

(3.) ชำระงวดแรก 27,076 บาท ที่เหลือชำระ 12 เดือน ๆ ละ 9,025 บาท 

รบกวนสอบถามเป็นดังนี้

1.ในเมื่อยึดรถไปแล้วและรถก็ถูกประมูลซื้อไปแล้ว ทำไมยังเรียกเก็บเงินอีก ซึ่งเป็นจำนวนเงินมาก แล้วทำไมยังแจ้งว่าเราเป็นหนี้กับธนาคารอยู่อีก

2.มีผู้ค้ำ 2 คน สามารถขอรับผิดชอบคนละครึ่งแจ้งกับทางธนาคารได้หรือไม่ เนื่องจากผู้ซื้อไม่มีความสามารถชำระได้

3.ไม่ต้องชำระได้หรือไม่

1. เวลาไปค้ำประกันใครเขาน่ะ มีความหมายว่าเมื่อเขาไม่ชำระหนี้ให้จบสิ้น ผู้ค้ำประก้นก็ต้องชำระหนี้จนครบถ้วน  เวลามีคนไปซื้อรถ แล้วผิดนัดไม่ชำระหนี้ ในระหว่างผิดนัดนั้นดอกเบี้ยก็จะเดินไปเรื่อย ๆ  เมื่อเขาขายรถแล้ว เขาก็นำเงินที่ขายได้ไปชำระดอกเบี้ย หากมีเหลือก็จะชำระเงินต้นที่ยังค้างอยู่ ยังขาดอยู่อีกเท่าไรเขาก็มาเอาจากผู้ค้ำประกัน

2. ก็เป็นเรื่องที่ผู้ค้ำประกันทั้งสองคนจะตกลงกันเอง แต่เมื่อใดที่อีกคนหนึ่งไม่จ่าย เขาก็เอาจากอีกนหนึ่งจนครบ

3. คิดอะไรง่าย ๆ อย่างนั้น  การที่เป็นหนี้เขาอยู่นี่ ก็เพราะตอนแรกคิดง่าย ๆ ใครเขาให้เซ็นชื่อค้ำประกันก็ค้ำเขาไปง่าย ๆ ถึงเวลาจึงต้องรับผิดชอบอย่างที่เป็นอยู่นี่ไงล่ะ