ทำอย่างไรดีครับ
 กราบเรียน อ.มีชัย ที่เคารพ 
                เมื่อปี ๒๕๐๙  คุณแม่ของผมได้ครอบครองที่ดินโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือใบ นส.๓ จำนวนพื้นที่  ๗ ไร่ ๒ งาน ๔ ตารางวา  ต่อมา ได้มีการเดินสำรวจที่ดินและเปลี่ยนหลักฐานจากเดิมไปเป็นโฉนดที่ดิน เหลือเนื้อที่  ๖ ไร่ ๓ งาน ๑๕  ตารางวา เมื่อวันที่  ๑๓  ธันวาคม ๒๕๓๒  
                พอคุณแม่ได้หลักฐานเป็นโฉนดที่ดินแล้ว คุณพ่อจึงได้ไปร้องเรียนต่อสภาตำบลว่า มีที่ดินที่อยู่บริเวณหัวไร่ปลายนา อยู่ติดกับที่ดินแปลงของคุณแม่ ประมาณเนื้อที่ ๓ ไร่ ซึ่งคุณปู่-คุณย่า ได้บุกเบิกทำมาหากิน มาเกือบ ๒๐ ปี แล้ว และคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ทำประโยชน์ในที่ดินส่วนนี้มาโดยตลอด แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือใดๆ เป็นหลักฐาน เช่น ใบ สค.๑, ใบ นส.๓,  ใบเหยียบย่ำ หรือใบจับจอง แต่อย่างใด มีเพียงพยานบุคคลที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน รับรู้รับทราบ  ทางสภาตำบลที่มีกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั้งตำบล ร่วมกับกรรมการสภาตำบลซึ่งเป็นผู้แทนหมู่บ้านและโรงเรียน(ในขณะนั้น) ได้มีมติอนุญาตให้คุณพ่อได้ครอบครองที่ดินเพื่อทำผลประโยชน์ต่อไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะออกใบโฉนดให้ มีหลักฐาน  เป็นบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาตำบล ครั้งที่ ๒/๒๕๓๓ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ 
                เวลาล่วงมาถึงปี ๒๕๔๗  ทาง อบต. ซึ่งเปลี่ยนสถานะหรือยกฐานะมาจาก สภาตำบลเดิม ได้ยื่นคำร้องไปยังอำเภอ เพื่อสำรวจที่ดินแปลงดังกล่าว (ของคุณพ่อ) และได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานที่ดินจังหวัด สาขาอำเภอ เพื่อทำการออกหลักฐานเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง จำนวนพื้นที่  ๒ ไร่ ๑  งาน ๕๒  ตารางวา เป็นการออกหนังสือสำคัญเพื่อแสดงเขตที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน อยู่ในความดูแลของกระทวงมหาดไทย ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์และสาธารณประโยชน์  โดยที่คุณพ่อและคุณแม่ไม่ทราบเรื่อง ใดๆ มีแต่ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น เข้ามาพบและให้คุณแม่ลงลายมือชื่อฝ่ายเดียวเป็นอะไรก็ไม่รู้ ให้ไป  ต่อมาทาง อบต.ได้ทำการปรับพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจะสร้างอาคารที่ทำการ อบต. คุณพ่อจึงทำการคัดค้าน การก่อสร้างจึงสะดุดหยุดลงตั้งแต่บัดนั้น จนกระทั่งวันนี้ 
                เมื่อทราบเรื่องว่า อบต.ได้ทำการปรับถมที่แปลงดังกล่าว  คุณพ่อได้คัดค้านและพยายามติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ก็ไม่เป็นผล ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้เกี่ยวข้อง ในหน่วยงานต่างๆ ก็ไม่รับการตอบสนอง จนกระทั่ง คุณพ่อเสียใจและตรอมใจมาก สุดท้ายได้เสียชีวิตลงเมื่อ ปี ๒๕๔๙  และคุณแม่ก็มาเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑  ทางลูกๆ จึงมีความคิดที่จะเรียกร้องสิทธิเอาที่ดินแปลงที่คุณพ่อได้รับอนุญาตจากสภาตำบลคืน เพื่อทำตามเจตนารมณ์ของคุณพ่อก่อนเสียชีวิต  เพราะฝ่ายลูกๆ  เพิ่งได้รับพยานหลักฐานสำคัญคือ บันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาตำบล ครั้งที่ ๒/๒๕๓๓ ที่ออกตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ เมื่อ ๓  ๔ วันที่ผ่านมานี้เอง  หลักฐานเพียงเท่านี้จะเพียงพอหรือยังครับที่จะเริ่มทำเรื่องขอที่ดินแปลงดังกล่าวคืน และสุดท้ายพวกลูกๆ จะพอมีทางได้ที่ดินคืนหรือไม่  
                คำถามจึงมีว่า ฝ่ายลูกๆ ต้องเริ่มต้นทำอย่างไร  อาศัยพยานหลักฐานหรือพยานบุคคล (มีเพื่อนบ้านประมาณ ๑๐  ๒๐ คนพร้อมให้การช่วยเหลือ) แค่ไหน  หรือจะทำคำร้องไปยังใคร หรือต้องฟ้องศาลเพิกถอนการออกหลักฐานเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เอากับใคร หรือศาลใด ระหว่างศาลยุติธรรม กับศาลปกครอง  กระผมในฐานะเป็นลูกคนสุดท้องของคุณพ่อ-คุณแม่ ขอความกรุณาจากท่าน อ.มีชัย ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ หรือจะให้ผม ไปขอความช่วยเหลือจากใคร หรือหน่วยงานใด ผมก็จะทำตามคำแนะนำของท่าน อาจารย์ อย่างถึงที่สุดครับ 
                กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ  |