ฟ้องคดีหมิ่นประมาทเหตุเกิดในวัดแก้วหรือสนามกีฬาศุภ
 เรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ 
     ผมมีความเชื่อโดยส่วนตัวว่า อาจารย์เป็นผู้หนึ่งที่สามารถช่วยผ่อนคลายและแก้ไขวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับคนไทยและประเทศไทยได้  วิกฤตและปัญหาที่เกิดกับคนไทยและประเทศไทยในขณะนี้ ผมขอยืนยันว่าต้องเป็นความร่วมกันรับผิดชอบของคนไทยทุกคน(รวมถึงตัวผมด้วย) 
     ความที่สังคมของคนไทยที่ผ่านมา ไม่แต่เพียงปฏิเสธการคิด การพูด การกระทำตามหลักศีลธรรมเบื้องต้นของศาสนาที่ตนเองนับถือแล้วเท่านั้น  คนไทยทุกคนยังบังอาจปฏิเสธการคิด การพูด การกระทำที่สังคมไทยมีข้อกำหนดหรือตกลง นั่นก็คือ คนไทยทุกคนยังบังอาจคิด พูด ทำผิดกฎหมาย  จนวันหนึ่งคนไทยต่างมาเถียงกันว่า "ไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อนกัน"  นั่นคือ ต่างก็กล่าวโทษกันว่า อีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มคิด พูด ทำผิดกฎหมายก่อน 
     ที่ผ่านมาก็ผ่านไป แล้วคนไทยในปัจจุบันนี้จะเหลือหรือทิ้ง"มรดกอะไร" ไว้ให้ลูกให้หลานที่เป็นคนไทยทุกคน 
     ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 12-13/2551 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 เรื่อง ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง  จริงๆแล้ว ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ"คุณสมัคร สุนทรเวช"ต้องสิ้นสุดตั้งแต่วันถัดจากวันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งคุณสมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรี  แต่เอาเถอะเป็นเพราะว่ากว่าที่กระบวนการยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรม คนไทยและประเทศไทยจะประสบปัญหาและต้องเผชิญกับวิกฤตขนาดไหน  ไม่ต้องไปหาคนที่จะต้องรับผิดชอบหรอก ผมถึงบอกว่า ต้องเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคนรวมถึงผมด้วย 
     ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 6-7/2551 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 เรื่อง แถลงการณืร่วมไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทพระวิหาร ว่า คณะรัฐมนตรี"รัฐบาลสมัคร" ซึ่งมีคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้วย กะทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ต้องแปลไทยเป็นไทยไหมว่า  "คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ได้บังอาจกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ" ซึ่งมีคำพิพากษาเป็นที่สุดแล้ว 
     แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลยังบังอาจเลือกผู้ที่กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 จะอ้างว่าไม่ทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นระยะเวลากว่าสองเดือนกระนั้นหรือ 
     คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีควมหมายและความสำคัญอย่างไร ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่สำเหนียก  "ตกลงอะไรคือกฎหมู่และอะไรคือกฎหมาย"  และยังมีคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์พระมหากษัตริย์ของรัฐมนตรี และคำปฏิญาณตนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกที่ว่า  "...ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"  มีความหมายและความสำคัญเช่นไร 
    อาจารย์เห็นด้วยไหมครับว่า  ที่ถูกต้องคือคนไทยทุกคนต้องไม่ทำผิดกฎหมาย  และผู้ที่กฎหมายให้อำนาจให้หน้าที่ให้ความรับผิดชอบมากกว่าประชาชนคนไทยธรรมดายิ่งต้องกระทำผิดกฎหมายไม่ได้โดยเด็ดขาดและถ้าบังอาจกระทำผิดกฎหมายต้องรีบดำเนินการและใช้เวลาในกระบวนการยุติธรรมที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ 
     ผมต้องขออภัยอาจารย์เป็นอย่างสูงที่เอาแต่น้ำมาพูดมากมาย  ผมขออนุญาตเข้าเรื่องที่จะขอความเห็นและขอคำตอบจากอาจารย์ ดังนี้ 
     1.กรณีมีการหมิ่นประมาทภายในวัด  สมมติว่า มีนายเลื้อยคลาน จัดประชุมและมีการใช้เครื่องกระจายเสียงหรืออาจจะถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ทั้งนี้ได้ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสของวัดโดยถูกต้อง และเป็นอันรู้กันโดยทั่วไปว่า อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท  หากมีกรณีที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทจริง 
          1.1พระซึ่งเป็นเจ้าอาวาส จะถูกฟ้องเป็นจำเลยในฐานะเป็นผู้สนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจในการหมิ่นประมาท หรือไม่ 
          1.2สถานที่ที่เป็นวัด ผู้ที่รับผิดชอบสถานที่ที่ใช้จัดการประชุมคือวัด ซึ่งรู้ได้ว่าอาจเกิดกรณีหมิ่นประมาท  แต่ยังบังอาจอนุญาตให้ใช้สถานที่จัดงาน ในฐานะที่วัดอยู่ในการดูแลของ กรมการศาสนา และในความดูแลของรัฐมนตรี  นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของรัฐบาล จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือไม่ 
     2.กรณีมีการหมิ่นประมาทในสนามศุภชลาศัย ซึ่งเป็นสถานที่ของหน่วยราชการ  สมมตินายเลื้อยคลาน ขออนุญาตจัดชุมนุม แล้วมีการกระทำที่เป็นการหมิ่นประมาทจริงตามกฎหมาย 
          2.1ผู้ที่อนุญาตให้มีการจัดชุมนุม มีความผืดฐานสนับสนุนหรือสมรู้ร่วมคิดด้วยหรือไม่ 
                       ด้วยความเคารพ 
                policemajor@hotmail.com 
   |