อยากได้บุตรกลับมาดูแล
 กราบเรียน  ท่านมีชัย 
                  ดิฉันมีเรื่องขอปรึกษาดังนี้ค่ะ  ดิฉันได้หย่าขาดจากสามีเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551  โดยขณะนั้นสามีขอเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว  เค้าถึงจะยอมหย่าให้ แม้ว่าจะให้อยู่ในความดูแลของทั้งสองฝ่าย  และร่วมกันอุปการะบุตร  แต่เค้าไม่ยอม  เงื่อนไขในการหย่า ดิฉันเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากพอสมควร แบกรับภาระหนี้สินเองทั้งหมด แต่เพื่อต้องการยุติการเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย  จึงได้เซ็นหย่า โดยมีเงื่อนไขในการหย่าดังนี้ 
1. ให้บุตรอยู่ในอำนาจปกครองของบิดา 
2. เรื่องอุปการะเลี้ยงดูบุตร  บิดาเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตร  
3.  การที่บุตรจะไปอยู่กับมารดาในระยะเวลาใดให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุตร   
นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องหนี้สินและทรัพย์สินต่างๆฯ   หลังจากที่ได้หย่าขาดจากกัน  ฝ่ายอดีตสามีได้ให้ลูกอยู่กับพ่อกับแม่เค้าที่ต่างจังหวัด  ส่วนเค้าทำงานอยู่ที่กรุงเทพ   จะกลับเฉพาะเสาร์อาทิตย์ซึ่งก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง   ดิฉันได้ติดต่อลูกทั้งทางโทรศัพท์ที่บ้านและที่โรงเรียน  กลับถูกแม่เค้ากีดกันและไม่ยอมให้ติดต่อด้วย  ดิฉันจึงโทรไปที่โรงเรียนและได้มีโอกาสพูดคุยไม่กี่ครั้ง พอคุณย่ารู้ก็กำชับที่โรงเรียนไม่ให้ลูกมารับโทรศัพท์ของดิฉันเวลาที่ดิฉันโทรไปหาลูกที่โรงเรียน   สิ่งของที่ดิฉันส่งไปให้ลูกที่โรงเรียน ซึ่งลูกชอบมากและก็ได้เล่น ได้ใช้  ได้เขียนในสมุดที่ดิฉันให้เค้าเขียนบันทึกเอาไว้แล้วแม่จะกลับไปอ่าน   ปรากฎว่าทางคุณย่าได้ไปเอาข้าวของทั้งหมดส่งกลับคืนมาให้ดิฉัน   แถมยังป้อนข้อมูลว่าดิฉันไปมีสามีใหม่ ทั้งที่ดิฉันยังไม่มีใครและยังอยู่ตัวคนเดียว  
                ดิฉันไปเยี่ยมลูกเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พ.ย. 51เพราะทราบข่าวว่าลูกสาวถูกพี่สาว ซึ่งเป็นลูกของอารังแกและทำร้ายเป็นประจำ จึงตัดสินใจไปพบลูกที่โรงเรียนโดยที่ไม่ให้คุณย่ารู้  เพราะหากรู้ดิฉันคงไม่ได้เจอลูกแน่นอน   ลูกดีใจมาก เพราะนึกว่าแม่ทิ้งเค้าไปตามที่คุณย่าบอก  และลูกก็บอกว่า  อยากกลับมาอยู่กับแม่  ให้แม่พาเค้าออกจากที่นั่นหน่อย  เพราะว่าถ้ากลับไปก็จะถูกพี่สาวตีเป็นประจำ  ดิฉันสงสารลูกมากเพราะว่ายังเล็ก อายุยังไม่ถึง 6 ขวบ   ลูกร้องไห้กอดแม่และระบายความรู้สึกออกมาทั้งหมด  ดิฉันสงสารลูกมาก และตอนนี้หาทางที่จะเอาลูกกลับมาอยู่กับดิฉัน   ดิฉันโทรบอกคุณย่าว่าลูกต้องการไปอยู๋กับดิฉัน   เมื่อคุณย่ารู้ว่าดิฉันไปพบลูกที่โรงเรียนก็รีบมาโรงเรียนทันที  และมาต่อว่าดิฉันและครอบครัว  ต่อหน้าครูที่โรงเรียนหลายคน  และท้าให้ดิฉันไปฟ้องศาลเอา  ถ้าอยากได้ลูกคืน   ดิฉันจึงมีคำถามปรึกษาดังนี้ค่ะ 
1.  เมื่อลูกสาวต้องการมาอยู่กับแม่ในเวลานี้  สามารถกระทำได้หรือไม่ค่ะ  เพราะได้สลักหลังใบหย่าไว้แล้ว  (เนื่องจากเห็นลูกไม่มีความสุขและถูกรังแก)  หรือต้องรอให้เด็กบรรลุนิติภาวะก่อน    ทางคุณย่าไม่ยอมอ้างว่าเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ  และไม่ยอมให้ลูกมาอยู่กับดิฉัน และท้าให้ดิฉันไปฟ้องศาลเอา 
2.  พ่อของเด็กไม่ได้เลี้ยงดู แต่ให้ปู่กับย่าเป็นผู้เลี้ยงดู  ซึ่งเด็กต้องการจะอยู่กับแม่  เพราะอยู่ที่นั่นไม่มีความสุข   กรณีนี้ ดิฉันมีสิทธิเพิกถอนอำนาจปกครองของบิดาได้หรือไม่ 
3.  ทางบ้านสามีกีดกันดิฉันทุกวิถีทาง โดยไม่ได้คำนึงถึงจิตใจเด็กเลย ทั้งที่ตามกฎหมายแล้วเค้าไม่มีสิทธิมากีดกัน  ดิฉันได้เก็บหลักฐานที่เค้าส่งของคืนกลับมาให้  และได้บันทึกเสียงวันที่เค้าระเบิดอารมณ์ใส่ครอบครัวดิฉันที่โรงเรียนของลูกไว้แล้ว   กรณีดิฉันสามารถนำไปใช้เป็นเหตุผลในการขอเพิกถอนอำนาจการปกครองของบิดา  และให้ลูกสาวได้กลับมาอยู่กับดิฉัน 
4.  ดิฉันเป็นข้าราชการ สังกัด สกอ.  ส่วนอดีตสามีเป็นพนักงานราชการของส่วนราชการหนึ่งในกรุงเทพ  ดิฉันมีแนวโน้มความเป็นไปได้ที่จะได้ลูกกลับมาอยู่ในความดูแลไหมคะ   ดิฉันเห็นลูกแล้วทำใจไม่ได้ที่ลูกต้องตกอยู่ในสภาวะที่ถูกรังแกเป็นประจำ  พ่อของเด็กก็รู้  แต่ไม่จัดการอะไร มีแต่เชื่อพ่อกับแม่เค้าว่าแค่เด็กทะเลาะกัน  ญาติของเค้าได้ส่งข่าวเกี่ยวกับลูกสาวดิฉันให้ทราบเป็นระยะ และยังทนไม่ได้ที่ต้องเห็นหลานถูกรังแก  ดิฉันจึงติดต่ออดีตสามีทางโทรศัพท์เพื่อปรึกษากันเรื่องลูก  หลายต่อหลายครั้ง เค้าก็ไม่ยอมรับ  และไม่เคยมาหารือทางออกร่วมกันว่าจะเอาลูกไปอยู่กับเค้าที่กรุงเทพ  หรือให้ลูกมาอยู่กับดิฉัน  ดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ และต้องการได้ลูกกลับคืนมาโดยเร็วที่สุดก่อนที่เด็กจะถูกทำร้ายจิตใจไปมากกว่านี้ค่ะ   
                ขอความกรุณาท่านมีชัย โปรดชี้แนะแนวทาง  และพิจารณาหาทางออกให้แก่ดิฉันด้วยนะคะ  ขอบพระคุณมากค่ะ   |