กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพคะ

ดิฉันมีคดีล้มละลายของพี่ชายนำมาปรึกษาอาจารย์คะ  คือ พี่ชายและภรรยา(ไม่ได้จดทะเบียน) โดนแบงค์แห่งหนึ่งฟ้องคดีล้มละลาย ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ไปสู้คดีในเดือน ม.ค.52  มูลหนี้ที่ทางแบงค์ฟ้องนั้น เป็นจำนวนเกือบ 5 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นเงินต้น 1 ล้านกว่าบาท และดอกเบี้ย 4 ล้านกว่าบาท ทางบ้านก็ไม่อยากให้พี่ชายเป็นบุคคลล้มละลาย ก็เลยติดต่อไปยังแบงค์ว่าจะขอจ่ายเพียงแค่เงินต้นเท่านั้น ทางแบงค์ก็ไม่ตกลงด้วย เลยอยากถามอาจารย์ว่า

1.     หากไม่ไปศาลเพื่อสู้คดีในเดือน ม.ค.52 นั้น จะมีผลอะไรหรือเปล่าคะ

2.     ถ้าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จะต้องเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ในนามของพี่ชายและภรรยาไปชี้แจงใช่หรือเปล่าคะ

3.     พี่ชายมีลูก 1 คน ได้ฝากเงินเข้าบัญชีลูกทุกเดือนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน เงินจำนวนนี้จะโดนยึดด้วยหรือเปล่าคะ

4.     พี่ชายกับดิฉันเปิดบริษัทร่วมกัน แต่ดิฉันเห็นว่าเขามีปัญหาเรื่องนี้ จึงให้เขาลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทไป บริษัทของดิฉันจะมีผลอะไรด้วยหรือเปล่าคะ ปัจจุบันที่อยู่ของบริษัทยังใช้ที่อยู่ของพี่ชายที่อาศัยอยู่ด้วยคะ

5.     หากกรมบังคับคดีเรียกประชุมเจ้าหนี้ แล้วสามารถประนอมหนี้ได้ในคร่าวเดียว จะหลุดจากการเป็นบุคคลล้มละลายหรือเปล่าคะ

6.     แล้วหากเป็นบุคคลล้มละลายมาแล้ว 3 ปี แต่ยังชำระหนี้ไม่หมด ยังต้องเป็นบุคคลล้มละลายต่อไปหรือเปล่าคะ

จึงขอรบกวนอาจารย์ช่วยตอบปัญหาด้วยนะคะ

ขอขอบพระคุณอย่างสูงคะ

เรียน คุณเบญ

1. ถ้าไม่ไปตามนัด ศาลก็พิจารณาไปฝ่ายเดียว แล้วก็คงพิพากษาให้พี่ชายคุณล้มละลาย แล้วก็ดำเนินการยึดทรัพย์สินมาชำระหนี้

2. ใช่แล้ว

3. ถ้าลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะก็อาจโดนด้วย

4. ถ้าเขามีหุ้นอยู่ในบริษัท หุ้นนั้นก็อาจถูกยึดไปขายได้

5. ถ้าประนอมหนี้กันได้ ศาลก็ไม่สั่งให้ล้มละลาย

6. ถ้าไปศาลหรือไปพบเจ้าพนักงานตามที่เขานัด และไม่ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ พอครบ ๓ ปี ก็จะมีสิทธิพ้นจากล้มละลาย หนี้ที่มีอยู่ก่อนก็จะเลิกกันไป