อยากเรียนปรึกษาท่านดังนี้ครับ เดิมคุณพ่อมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งติดกับภูเขาประมาณ 10 กว่าไร่  ปี 2537 ได้ตัดสินใจขายไปครึ่งหนึ่ง พร้อมทำสัญญาให้สร้างถนนเป็นทางสาธารณะระหว่างกลางของที่ดินทั้งสองแปลงจากถนนข้างล่างไปติดภูเขา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้ขึ้นไปดูแลป่าไม้บนเขาได้สะดวก เวลาผ่านไปหลายปี คุณพ่อก็สังเกตว่าผู้ซื้อเอาที่ไปทำเป็นบ้านจัดสรรและทำถนนขึ้นไประหว่างที่ดินทั้งสองแปลง แต่ทำถนนไม่ถึงตีนเขา ตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา เว้นเป็นที่รกร้างไว้ประมาณ 100 ตร.ว.  คุณพ่อจึงเข้าใจว่าผู้ซื้อคงไม่อยากเสียเงินทำถนนให้ จึงยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ปี 2547 คุณพ่อก็เสียชีวิตลง ต่อมาปี 2548 คุณแม่ก็ได้รับการแต่งตั้งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดก ระหว่างปี 2551-2552 คุณแม่จึงตัดสินใจจะแบ่งที่ดินซึ่งติดอยู่กับที่ซึ่งถูกขายไปให้กับลูก ๆ และพบว่ามีสัญญาระบุให้ทำถนนขึ้นไปถึงตีนเขา มีการวาดแผนที่ลงแรงเงาเฉพาะส่วนเอาไว้อย่างชัดเจน พร้อมกับลงลายมือผู้ขายกับผู้ซื้อกำกับไว้  เมื่อไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวกลับมีรั้วล้อมรอบเอาไว้ จึงได้สอบถามกับผู้ซื้อคนเดิม และทราบว่าได้โอนที่ให้กับผู้อื่นไปนานแล้ว หลังจากนั้นทางคุณแม่ก็พยายามติดต่อเพื่อนัดคุยกัน จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วของปีนี้ จึงเข้าไปพบและนัดเจรจากันทั้งสามฝ่าย จึงทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว พื้นที่บริเวณถนนนั้นคุณพ่อไม่ได้ขายให้ด้วยซ้ำเป็นการกันออกจากที่ดินที่ซื้อขายกันเพื่อเอาไว้จัดทำเป็นทางสาธารณะโดยเฉพาะ แต่ผู้ซื้อกลับสร้างเป็นทางสาธารณะเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยส่วนที่ติดกับภูเขาประมาณ 100 ตร.ว. นั้นถูกนำไปออกเป็นหลักฐานแล้วโอนให้หุ้นส่วนกันเอง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากทำสัญญากัน เป็นเหตุให้คุณแม่ได้รับความเสียหายเพราะไม่ได้ทำเป็นถนนสาธารณะตามสัญญา กลับโอนที่ดังกล่าวให้กับหุ้นส่วน นอกจากนี้ยังทำให้บริเวณพื้นที่ติดถนนของเราลดลงไปครึ่งหนึ่งเนื่องมาจากการสร้างรั้วปิดกั้นดังกล่าว

                จึงอยากจะเรียนถามดังนี้ครับ

1.       อายุความฟ้องแพ่งขาดอายุความหรือยังครับ

2.       เจตนารมณ์ของผู้ขายต้องการยกให้เป็นทางสาธารณะเพื่อให้ป่าไม้สามารถดูแลป่าบนภูเขาได้โดยสะดวก จะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างครับ

3.       เพิ่งทราบเมื่อเดือนที่แล้วหลังจากเอาหลักฐานมาแสดงต่อกันว่า ผู้ซื้อน่าจะมีเจตนาทุจริตยักยอกเอาที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. ไปออกเป็นหลักฐานแล้วโอนให้หุ้นส่วนกันเอง โดยอ้างว่าดูสัญญาไม่ละเอียด และหุ้นส่วนที่รับโอนไม่รู้เรื่อง คุณแม่จะสามารถแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหายักยอกทรัพย์กับผู้ซื้อและหุ้นส่วนได้หรือไม่ครับ

4.       ท่านพอจะให้คำแนะนำใดที่เป็นประโยชน์บ้างหรือไม่ครับ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงครับ ผมอยากให้สังคมไทยน่าอยู่เหมือนกับนานาประเทศที่เจริญแล้ว ไม่เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบกันในสังคม โกงกันเป็นเรื่องปกติ ทำดีเป็นเรื่องผิดปกติ