กราบเรียน  ท่านมีชัย ที่เคารพอย่างสูง

ผมเป็นทหารชั้นผู้น้อย มีปัญหารบกวนเรียนถามท่าน  ดังนี้

เมื่อปี ๒๕๔๐ ผมกับภรรยา ขอกู้เงินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อซื้อบ้านจำนวน ๖๔๐,๐๐๐ บาท ผมผ่อนชำระตามกำหนดมาตลอดจนถึงปี ๒๕๔๕ กระผมกับภรรยา มีเหตุต้องหย่าขาดกัน ทำให้ต่างคนไม่สามารถผ่อนชำระบ้านได้ ธนาคารยึดขาดทอดตลาด แล้วแจ้งว่าเงินที่ขายทอดตลาดไม่พอชำระหนี้ ยอด ณ ปัจจุบันประมาณ ๗๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๙ ต่อปี นับจากวันที่ขายทอดตลาด ผมขออนุญาตเรียนถามดังนี้

๑. ยอดกู้ ๖๔๐,๐๐๐ บาท ผมผ่อนชำระหนี้เกือบห้าปี (เดือนละ ๗,๗๐๐)พอขายทอดตลาดแล้วยังมีหนี้เพิ่มเป็น ๗๕๐,๐๐๐ บาท ท่านว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ครับ

๒.ผมและอดีตภรรยา(กู้ร่วมกัน)จะถูกฟ้องล้มละลายได้หรือไม่ครับ เพราะยอดหนี้ไม่ถึงล้านบาท แต่ถ้าคิดดอกเบี้ยเข้ามารวมด้วยก็อาจจะถึงล้านบาท  เขาเอาดอกเบี้ยมารวมด้วยไหมครับ

๓.ท่านมีวิธีแนะนำในการดำเนินการต่อไปอย่างไรครับ

กราบขอบพระคุณท่านครับ

จ่าโต

เรียน จ่าโต

1. เวลาไปกู้หนี้ยืมสินเขานั้น ว่าง ๆ ต้องเอาสัญญากู้มานั่งอ่านให้เข้าใจ เพราะเงื่อนไขต่าง ๆ จะกำหนดไว้ในสัญญานั้น การที่คุณผ่อนส่งเดือนละ 7,400 บาทนั้น ในระยะต้นเงินส่วนใหญ่จะเป็นดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นเงินต้นจึงไม่ลดลงมากนัก แต่ทันทีที่คุณไม่ชำระหนี้ เขาก็เรียกดอกเบี้ยสูงขึ้นในอัตราที่เล่ามาก็ถึง ร้อยละ 19 เพราะฉะนั้น ผ่านไปไม่กี่ปี จำนวนเงินที่จะต้องชำระก็จะมากขึ้น

2. รวมด้วย

3. รีบไปเจรจากับเขาเสียเผื่อจะมีทางผ่อนปรนกันอย่างไรได้บ้าง การเป็นหนี้แล้วนิ่งเฉย ดอกเบี้ยมันก็วิ่งของมันเรื่อยไป