สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง บริษัทดำเนินกิจการเกี่ยวกับพลังงานทดแทนค่ะ

เมื่อประมาณกลางปี 2552 ที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง ทำให้ขายสินค้าได้ไม่ดีเท่าที่ผ่านมา ดังนี้ บริษัทก็เริ่มจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานเต็มจำนวนบ้างไม่เต็มจำนวนบ้าง  เลื่อนเวลาจ่ายค่าจ้างบ้าง ซึ่งพนักงานก็ได้ถามไปยังนายจ้าง นายจ้างได้บอกว่าช่วงนี้บริษัทฯไม่มีเงินที่จะจ่ายพนักงาน แต่นายจ้างก็ไม่ยอมเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งพนักงานบางคนก็ทำงานมา7-8ปีก็ต้องได้ค่าชดเชย บริษัทได้แจ้งว่าใครหางานใหม่ได้ก็ให้ไปทำที่อื่นได้เลย คือประมาณว่าบีบให้ลาออกเองและไม่จ่ายค่าจ้าง และไม่เลิกจ้างค่ะ

ดิฉันก็ไม่ได้รับค่าจ้างมา2เดือนเต็มๆสุดท้ายก็ต้องเขียนใบลาออก เพราะไม่สามารถทำงานต่อไปได้เพราะบริษัทฯไม่จ่ายค่าจ้างดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปทำงานค่ะ

ช่วงนี้ดิฉันตกงานอยู่ เพื่อนๆและดิฉันได้ไปฟ้องคดีต่อศาลแรงงานไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ศาลนัดวันที่27มกราคม 53ที่จะถึงนี้ค่ะ

ในใจดิฉันคิดว่าบริษัทก็ไม่จ่ายอยู่ดีคิดว่าคงจะผัดผ่อนไปเรื่อยๆ ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ

อยากถามคำถามดังนี้

กรณีไปฟ้องศาลไว้แล้ว วันนัดแรก อาจจะมีการประนีประนอมว่าเอายังไงกันดี บริษัทฯอาจจะผัดผ่อนโดยการโอนให้แต่ถึงเวลาแล้วไม่โอนจริง หรืออาจจะโอนเป็นหลายๆงวด (ดิฉันได้ข่าวมาว่าบริษัทจะไม่โอนให้ จะโอนให้ก็ต่อเมื่อมีเงินจ่ายให้กับพนักงานที่ทำอยู่เป็นปรกติแล้ว)จริงๆแล้วบริษัทก็ไม่ถึงกับไม่มีเงินจ่ายแต่บริษัทเขาไม่จ่ายให้เองค่ะ ซึ่งดิฉันคิดว่าไม่เป็นธรรมมากๆๆๆค่ะ

ขอขอบคุณ คุณมีชัย มากๆค่ะ (กรุณาช่วยตอยหน่อยนะคะเพราะใกล้ถึงวันที่ศาลนัดแล้วค่ะ)