คดีเฉี่ยวชนและหลบหนี ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
เรื่องมีอยู่ว่า
ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 20.30 ได้เกิดเหตุรถกระบะ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์จนทำให้มมีผู้ถึงแก่ความตาย วันที่ 11 ก.พ. 53 เวลาประมาณ 11.00 น. พบแผ่นป้ายทะเบียนรถของผมตกอยู่ในที่เกิด
ในวันที่ 10 ก.พ. 53 นั้น ผมไม่ได้ใช้เส้นทางนั้นเลย แต่ผมผ่านไปจริงวันที่ 11 ก.พ. 53 เวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งหมายความว่าทางตำรวจและผู้เสียหาย พบป้ายทะเบียนรถของผม ก่อนเวลาที่ผมจะเดินทางไป ทำให้ทุกคนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดครับ
ขณะนี้ผมถูกยึดรถเพื่อตรวจสอบร่องรอย เบื้องต้นพบว่า มีรอยที่สามารถตรงกันกับการเกิดเหตุได้ แต่พอผมถามไปว่า พิสูจน์ได้หรือไม่ว่านานเท่าใด ทางวิทยาการไม่สามารถตอบได้ รวมถึงไฟเลี้ยวที่เปลี่ยน ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ระยะเวลาที่เปลี่ยนนานเท่าใด เพราะเดิมรถผมมีรอยนั้น อยู่ก่อนหน้าประมาณ 1 ปีเห็นจะได้
ขณะนี้ทางตำรวจยังคงยึดรถของผมซึ่งต้องใช้ในการทำงาน และหาข้อพิสูจน์ของตนเองจากวงจรปิดตามแยกต่างๆ
ในกรณีนี้จึงใครขอถามท่านครับว่า
1. นอกจากกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ นั้น ผมสามารถขอข้อมูลสัญญาณการใช้โทรศัพท์เพื่อยืนยันที่อยู่ได้หรือไม่
2. ชิ้นส่วนของแผ่นป้ายทะเบียนที่ตกอยู่ มันไม่ครบตามจำนวนที่ควรเป็นผมสามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้หรือไม่
3. ตำรวจสามารถยึดรถเพื่อตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีได้กี่วัน
4.พยานของผมซึ่งล้วนแต่เป็นอาจารย์ทั้งสิ้น จะสามารถยืนยันให้ผมได้หรือไม่ว่า วันที่ 10 ในเวลาเกิดเหตุ ผมไม่ได้อยู่ ณ จุดเกิดเหตุนั้น
ครั้นจะยอมรับเพื่อให้ประกันภัยจ่ายค่าอุบัติเหตุให้ นั่นก็หมายความว่า การให้การของผมตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2553 ซึ่งผ่านไปเกือบ 1 เดือนหลังเกิดเหตุ ผมได้โกหกมาโดยตลอด ซึ่งแท้จริงแล้ว ผมพูดความจริงทุกครั้ง
ก็ยังเป็นที่สงสัยอีกว่า เหตุใดตำรวจเจ้าของคดีจึงไม่เรียกผมไปให้ปากคำเร็วกว่านี้ จะได้หาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดได้รวดเร็ว และไม่เป็นกังวลว่าเทปดังกล่าวจะถูกลบทิ้ง
ยืดยาวไปซะหน่อยนะครับ รบกวนช่วยตอบคำถามเพื่อเป็นแนวทางให้กับผมด้วยนะครับ |