ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    039646 ศาลตัดสินคดียักยอกทรัยพ์ และปลอมแปลงเอกสารกำลังจะติดคุก21 มีนาคม 2553

    คำถาม
    ศาลตัดสินคดียักยอกทรัยพ์ และปลอมแปลงเอกสาร

    เรียน ท่านมีชัย

           หลานดิฉัน ถูกอัยการสั่งฟ้องคดี ปลอมแปลงเอกสาร คือ หลานเป็นผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยได้ไปขายของเงินผ่อน แต่หลานได้นำสินค้าไปขายเงินสด และมาปลอมเอกสารบัตรประชาชน ซื้อสินค้าเงินผ่อน โดยกระทำทั้งหมด 3 ครั้ง ปลอมแปลงเอกสาร 3 คน  เป็นเงินประมาณ 70,000.- บาท   จนบริษัทจับได้ว่าผู้ที่ทำสัญญาซื้อสินค้าเงินผ่อน ไม่ได้เป็นผู้ซื้อ เพราะทางบริษัทได้ให้พนักงานไปตรวจเช็คสินค้าซึ่งเป็นบริการหลังขาย  ปรากฏว่าลูกค้าตามสัญญาไม่มีสินค้าดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้ซื้อสินค้า  ทั้ง 3 ราย  และบริษัท ได้แจ้งความ ฐานยักยอกทรัพย์  ซึ่งกระผมก็สารภาพกับตำรวจแล้ว ซึ่งตำรวจสั่งฟ้องคดียักยอกทรัพย์อย่างเดียว   แต่อัยการเมื่ออ่านคำสั่งฟ้องแล้ว  แจ้งให้ตำรวจสั่งฟ้องข้อหาปลอมแปลงเอกสารอีก 1 คดี ซึ่งอัยการเป็นโจทย์  และหลานก็รับสารภาพเช่นกันเนื่องจากทางตำรวจแจ้งหลานว่า ถ้าไม่รับสารภาพ ต้องเรียกบุคคลที่กระผมนำเอกสารบัตรประชนมาปลอมลายมือชื่อซื้อสินค้าเงินผ่อน มาสอบปากคำ อาจจะต้องมีโจทย์เพิ่มขึ้นอีก   ซึ่งเรื่องเกิดตั้งแต่เดือน ก.ย.51 ซึ่งหลานได้ไปให้การกับตำรวจหลายครั้งแล้ว  จนกระทั่งวันที่ 18 มีนาคม นี้ ศาลนัดฟังคำตัดสิน  และอ่านคำพิพากษา ให้จำคุกกระผม 6 ปี รับสารภาพคงให้จำคุก 3 ปี  และให้ชดใช้ค่าทรัพย์ที่ยักยอกมาให้ครบถ้วน  แต่ได้ประกันตัวออกมาในวงเงิน 100,000.- บาท  กระผมขอถามดังนี้ครับ

    1. ทำไมศาลไม่สอบปากคำกระผมเลย  แถมตัดสินโดยอ่านคำพิพากษาเลยครับ

    2. ถ้ากระผมจะยื่นอุทรณ์      โดยแจ้งต่อศาลว่า หลานได้ชำระเงินค่าทรัพย์ไว้ครบถ้วนแล้ว โดยพ่อของหลานนำเงินไปชดใช้ให้ และหลานมีโรคประจำตัวเป็นหอบหืด และมีบุตรอายุ 2 ขวบ ภรรยากำลังท้อง 4 เดือน ซึ่งภรรยาทำงานได้เงินเดือน เดือนละ 5,000.- บาท  ส่วนตัวหลานไม่ได้ทำงานต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน จะเป็นเหตุให้ศาลสงสาร และรอลงอาญาได้ไหมครับ  (กระผมเคยถูกจับเสพยาบ้า และศาลสั่งคุมประพฤติมา 1 ครั้งแล้วครับ)

    3.ถ้าไม่รอลงอาญา  อาจจะลดโทษลงต่ำกว่านี้ได้ไหมครับ

             ช่วยตอบด่วนด้วยนะครับ เพราะต้องยื่นอุธรณ์ ภายในวันที่ 19 เม.ย.53 นี้

                 ท้ายนี้ขอให้ท่านมีชัยมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ  รบกวนเท่านี้ครับ

                                        

    คำตอบ

    1. ไม่ทราบเหมือนกัน อาจเป็นได้ว่าคุณให้การสารภาพแล้ว และศาลก็คงถามคุณแล้วว่าคุณสารภาพหรือไม่

    2. การรอลงอาญาเป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาล จึงเดาได้ยาก

    3. ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว ก็คงสูงสุดแล้ว

         การถามมายังคอลัมน์นี้นั้น ไม่ได้กำหนดให้ต้องบอกชื่อจริง จะบอกชื่ออะไรมา คนตอบก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แต่คำถามของคุณ ปลอมแปลงแล้วปลอมแปลงอีก เดี๋ยวก็อ้างว่าเป็นหลานดิฉัน ซึ่งแปลว่า คนถามเป็นผู้หญิง และถามเรื่องของหลาน  แต่เดี๋ยวก็ใช้ว่า "กระผม" รับสารภาพ เอาแน่ไม่ได้ กลายเป็นคำถามของตัวคุณเองซึ่งเป็นผู้ชาย  พฤติกรรมอย่างนี้เป็นอันตรายต่อวิถีชีวิตของตัวเองในวันข้างหน้า


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    21 มีนาคม 2553