ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    039813 จะต้องจ่ายเงินหรือไม่นายโง่6 เมษายน 2553

    คำถาม
    จะต้องจ่ายเงินหรือไม่

    เมื่อต้นปี51 มีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาเปิดบัตรเครดิต เคทีซี ให้ผม วงเงิน 4หมื่นบาทแต่ไม่ได้เปิดใช้ และไม่เคยนำมาใช้ใดๆ บัตรยังอยู่ในซอง เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน และไม่ชอบ ที่ทำเพราะถูกยัดเยียดจากเจ้าหน้าที่  ต่อมาเมื่อปลายปี 52 มีเจ้าหน้าที่ประกันชีวิตเป็นหญิงของบริษัททิพยประกันภัย โทรศัพท์มาที่มือถือผมพูดถามว่าผมเป็นเจ้าของบัตรเครดิต เคทีซี ใช่หรือไม่ และพูกชักชวนโน้มน้าวให้ผมและบุคคลในครอบครัวทำประกันชีวิต แต่ผมบอกว่ามีบัตรเครดิตเคทีซีจริง แต่ยังไม่ได้เปิดใช้  หญิงคนดังกล่าวบอกว่าไม่เป็นไรและพยายามพูดสอบถามประวัติผมและครอบครัวเพื่อให้ทำประกันชีวิตให้ได้ แต่ผมยืนยันว่าบัตรเครดิตยังไม่เปิดใช้ ถามผมว่าสนใจทำประกันชีวิตหรือไม่ ผมตอบว่าสนใจ แต่ต้องเปิดใช้บัตรเครดิตก่อนแล้วจะทำ  เพราะผมเชื่อว่าหากยังไม่ขอเปิดใช้บัตร ก็ไม่สามารถมีสิทธิใดๆในบัตรได้ และสอบถามในลักษณะให้ตอบว่าใช่ หรือไม่ใช่  แล้วเลิกคุยกันไป โดยที่ผมไม่ได้ยืนยันสมัครทำประกันชีวิต  ต่อมาเมื่อต้นปี 53 มีซองเอกสารจากบริษัทประกันทิพยส่งมาให้ผมที่บ้าน  ผมฉีกซองดูแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอ่านและในเดือนต่อมาก็มีใบแจ้งหนี้จากบัตร เคทีซี ให้ผมชำระหนี้เป็นเงินประมาณ 1,200 บาท ผมจึงร้อนใจเพราะยังไม่ได้เปิดขอใช้บัตร แต่มีหนี้มาเรียกเก็บได้อย่างไร จึงโทรไปสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่บัตรเคทีซี ซึ่งแจ้งว่าผมไปทำประกันชีวิตไว้กับทิพยแล้ว ผมยืนยันว่าไม่ได้ทำ  เพียงแต่มีคนโทรมาสอบถามและเพียงแต่ตอบว่าสนใจเท่านั้น ยังไม่ได้สมัครยืนยัน  เขาบอกว่านั้นแหละผมสมัครทำประกันแล้ว ผมบอกว่าผมยังไม่ได้ขอเปิดใช้บัตรจะให้ผมจ่ายเงินได้อย่างไร  ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้นก็บอกว่าเออใช่ ในเมื่อยังไม่เปิดใช้ จะให้เป็นหนี้ได้อย่างไร  ผมเห็นว่าหากมีบัตรนี้อยู่ต่อไปอีกก็มีความเดือดร้อนเข้ามาหาอีกจึงบอกขอยกเลิกไม่เป็นสมาชิกบัตรเครดิตที่ทำไว้ และติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่บริษัททิพยประกันภัยเพื่อสอบถามว่าผมสมัครทำประกันชีวิตตั้งแต่เมื่อใด  เขาบอกว่าตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นโทรศัพท์มาสอบถามประวัติชื่อที่อยู่ผมไว้ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ซึ่งผมก็ได้ยืนยันว่ายังไม่ขอเปิดใช้บัตร จะให้ผมทำประกันได้อย่างไรแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย  เพียงแต่บอกว่าสนใจเท่านั้น   แต่เขาบอกว่าผมยืนยันสมัครทำประกันชีวิตแล้ว  โดยได้อัดคำสนทนาระหว่างผมกับเจ้าหน้าที่คนนั้นไว้แล้ว ถ้าไม่เชื่อจะเปิดให้ฟัง  ผมบอกว่าไม่ต้องเปิด  เพราะคุณตัดต่อคำพูดที่มัดตัวผมไว้แล้ว  ผมจึงแจ้งให้ยกเลิก  แต่ทางบริษัททิพยแจ้งว่าก็จะต้องเสียเบี้ยประกันที่ได้ทำไว้แล้ว  จากนั้นมาอีกทุกเดือนจะมีใบแจ้งหนี้จากบัตรเคทีซีให้ผมชำระหนี้ตลอดมา และได้เพิ่มวงเงินค่าติดตามมาอีกด้วย  ซึ่งผมติดต่อเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายแล้วรับปากว่าจะแก้ไขให้ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆสักที จึงขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ผมจะต้องจ่ายเงินประกันชีวิตตามที่เจ้าของบัตรเคทีซีเรียกให้ชำระหรือไม่(วงเงินเดือนสุดท้ายประมาณ 1,300 บาท)   หากผมไม่จ่ายจะเพิ่มวงเงินค่าติดตามไปเรื่อยๆใช่หรือไม่ จนอาจถึงหลักหมื่นและแสน ผมจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร  ร้องเรียนไปยังหน่วยงานใดที่รับผิดชอบได้หรือไม่   เจ้าของบัตรเครดิตเคทีซีผิดอะไรหรือไม่ เพราะผมยังไม่ได้ขอเปิดใช้บัตรเครดิต แต่มาเรียกเก็บเงินกับผมเป็นการเอาเปรียบใดๆหรือไม่  และบริษัททิพยประกันภัยมีสิทธิยัดเยียดทำประกันชีวิตให้ผมได้หรือไม่  มีวิธีแก้ไขอย่างไร (ผมคิดว่าจะไม่จ่ายและหาวิธีการดำเนินการกับทั้งสองบริษัทนั้นต่อไป (หากเป็นตาสีตาสาหรือใครก็ได้ที่ทำบัตรไว้เพราะถูกยัดเยียดให้ทำ  แล้วทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันยัดเยียดทำประกันชีวิตให้กับบุคคลเหล่านั้นโดยที่ไม่ตั้งใจ ซึ่งบางรายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะทำบัตรไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ใช้ แต่จู่ๆก็มีผู้หวังดีมาขอทำประกันให้ แล้วถูกเรียกให้ชำระหนี้โดยที่ไม่รู้ตัวจนเป็นหนี้ค้างแล้วถูกฟ้องร้องภายหลังจึงทราบว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต) 

     

     

     

     

     

      

      

    คำตอบ
    ในปัจจุบันมีวิธีทำมาหากินกันแปลก ๆ โดยอาศัยความไม่รู้และความซื่อของคนเป็นเครื่องมือ ยังเคราะห์ดีที่คุณโดนบริษัทประกันภัย ไม่ใช่โดนคนที่หลอกถามข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต แล้วเอาหมายเลขนั้นไปใช้ก่อหนี้โดยคุณไม่ได้รับประโยชน์  การตอบโต้กันทางโทรศัพท์นั่นแหละเป็นหตุให้คุณทำประกันภัยโดยไม่รู้ตัว  และเมื่อโดนอย่างนั้นแล้ว คุณก็ยังใช้วิธีเดียวกัน คือพูดจากกับเขาทางโทรศัพท์ เมื่อเข้าใจว่าเขาพูดรู้เรื่องแล้วจึงนอนใจ  แต่ในทางปฏิบัติคนที่เขารับโทรศัพท์นั้น เขาไม่ได้ไปดำเนินการอย่างที่คุยไว้กับคุณหรอก  ทางที่ดีจึงควรต้องมีจดหมายไปถึงทั้งสองบริษัท บอกปฏิเสธสัญญาประกันภัยและการใช้เครดิตนั้นเสีย โดยแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เวลาลงชื่อ อย่าลงลายมือชื่อที่ใช้อยู่ตามปกติ ให้เซ็นให้ผิดไปจากปกติ เผื่อว่าเขาลอกลายมือชื่อของคุณไปใส่เป็นสัญญาจะได้รู้ และปฏิเสธได้
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    6 เมษายน 2553