สวัสดีค่ะ ท่านมีชัย

           จากที่ถามไปครั้งที่แล้วนั้น จริงๆ แล้วทราบตัวคนที่ทำร้ายร่างกายพ่อของดิฉันแล้ว ปริ๊นซ์รูปแบบออกมาจากทะเบียนราษฎร์แล้ว ตั้งแต่ประมาณวันที่  20 มีนาคม 2553 แต่ตอนนี้ยังไม่คืบหน้าเลย เอาเป็นว่าดิฉันจะเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมดเลยนะคะ

            เหตุเกิด วันที่ 8 มีนาคม 2553 เวลา ประมาณ 9.00 น. พ่อของดิฉันได้ถูกทำร้ายร่างกาย ที่ซอยรามคำแหง 39 (ที่ใกล้ๆ บ้านน้าของดิฉัน)  หลังจากถูกตีก็ไปแจ้งความที่สน.วังทองหลาง ตำรวจก็ออกใบบันทึกประจำวันให้ หลังจากนั้นพ่อก็กลับบ้านที่ คลองเตย สักพัก พ่อปัสสะวะออกมาเป็นเลือด จึงโทรให้น้องชายของดิฉันพาพ่อไปหาหมอ พอหมอตรวจก็ต้องเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าไตฉีก พอพ่อรู้สึกตัวก็ถามหาใบแจ้งความ และก็นำมาอ่าน มีข้อความอยู่ตรงจุดหนึ่งที่อ่านแล้วสะดุด อ่านไม่ออก แล้วก็เก็บใบแจ้งความไว้กับตัวเอง เพื่อที่จะไปพบตำรวจเพื่อแจ้งความเพื่อเติม หลังจากที่เฝ้าพ่อเสร็จประมาณ 21.00 น. ก็รีบไปสน.วังทองหลางต่อ ตำรวจที่นั้นก็บอกว่าขอดูใบแจ้งความ แล้วเขาก็บอกว่าต้องมาพบกับร้อยเวรที่แจ้งความเอาไว้ตั้งแต่แรก คือ รตท.ตระการ แล้วเขาก็บอกว่าให้มาวันพรุ่งนี้

            วันที่ 9 มีนาคม 2553 ดิฉันก็ไปที่สน.วังทองหลาง เพื่อพบตำรวจร้อยเวร เสร็จแล้วเขาบอกว่าต้องให้พ่อมาแจ้งความเท่านั้น ดิฉันก็บอกว่าตอนนี้พ่อนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.เจริญกรุงฯ มาไม่ได้ เขาก็บอกว่า ก็ต้องรอจนว่าพ่อจะออกจาก รพ.ได้ แล้วให้มาให้ปากคำ และดิฉันก็นึกได้ว่าจะถามข้อความที่สะดุดตั้งแต่แรก แล้วตำรวจก็บอกว่า คำที่อ่านไม่ออกนั้น อ่านว่า"ไม่ประสงค์จะดำเนินคดี" เสร็จแล้วดิฉันก็รีบไปหาพ่อ แล้วถามพ่อว่า พ่อบอกเขาไปหรือว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดี  พ่อดิฉันบอกว่าไม่ใช่ เขาต้องการจะดำเนินคดี ไม่อย่างนั้นเขาจะไปแจ้งความทำไม ทำให้ดิฉันงงกับตำรวจสน.นี้มาก

              พ่อรักษาตัวที่รพ.อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ กว่า และให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านอีก 2 เดือน เพราะไตฉีก ต้องใช้เวลารักษาตัวนาน หลังจากออกจากรพ. กีรีบพาพ่อไปสน.วังทองหลาง โดยโทรนัดกับตำรวจร้อยเวรเจ้าของเรื่องก่อน ตอนแรกนัดวัน เสาร์ พอถึงวันก็โทรไปก่อน ปรากฎว่าตำรวจก็ขอเลื่อนนัดเนื่องจากจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็นัดเป็นวันจันทร์ คอนบ่าย พอตอนเช้าวันจันทร์ ดิฉันโทรไป ก็ขอเลื่อนออกไปอีก เป็นวันพุธ พอถึงวันพุธดิฉันไม่โทรไปก่อน แล้วก็พาพ่อไปที่สน.เลย  ก็ได้พบกับตำรวจร้อยเวรคนนั้น เขาก็ลงเป็นใบแจ้งความให้ และถามหาชื่อผู้ต้องหา แล้วก็ปริ้นซ์รูปออกมาให้ดูว่าใช่หรือ เปล่า  แล้วก็บอกว่าใช่  แล้วตำรวจก็ถามว่าหมอนัดอีกครั้งวันที่ เท่าไร ก็บอกไปว่า วันที่ 8 เมษายน 2553 แล้วตำรวจก็บอกว่ารอถึงวันนั้นก่อน จึงจะดำเนินการต่อได้ โดยต้องให้แพทย์จากรพ.ตำรวจไปตรวจร่างกายว่า การถูกทำร้ายร่างกายต้องแจ้งสาหัสหรือไม่ (ประมาณนี้)  เสร็จแล้วก็กลับบ้าน ระหว่างนั้นพ่อก็ไม่ได้ทำงานเลยต้องอยู่บ้านเฉย ๆ 

                วันที่ 8 เมษายน 2553 ก็พาพ่อไปหาหมอ แล้วก็รอว่าจะมีหมอจากรพ.ตำรวจมาตรวจร่างกายหรือเปล่า รอจนประมาณ 15.00 น. ไม่เห็นมีใครมาตรวจ (วันนี้หมอที่ดูเกี่ยวกับไตนัด และหมอก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับคดี) ก็เลยโทรไปหา รตท.ตระการ  ก็ถามเขาแล้วเขาก็พูดบ่ายเบี่ยงไป เรื่องอ่าน ก็ไม่ได้เรื่องอะไร เสร็จก็กลับบ้าน

                 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ คนร้ายที่ทำร้ายร่างกายพ่อ ยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ เลย พอโทรไปถามก็บอกว่าออกหมายเรียกไปแล้ว  ตามทะเบียนบ้าน ที่ทะเบียนราษฎร์ ดิฉันก็บอกตำรวจว่า คนร้ายไม่ได้อยู่ตามทะเบียนบ้าน แล้วก็วาดแผนที่ ของคนร้ายให้แล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แล้วดิฉันก็โทรไปถามอีก ก็บอกว่ายังออกหมายจับไม่ได้ต้องรอก่อน เนื่องจากอะไรไม่รู้ เขาไม่บอก แต่เรื่องก็เกิดมาเดือนกว่า จนจะ สองเดือนแล้ว ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย

หมายเหตุ  คนที่ทำร้ายร่างกายพ่อของดิฉัน เขารู้จักกับตำรวจสน.วังทองหลางเยอะ เนื่องจากเขาเปิดอู่ทำรถ แล้วบางทำเขาก็มาเลี้ยงเหล้าพวกตำรวจที่ สน.อยู่บ่อยๆ เขาก็เลยบอกว่าเขาไม่กลัวตำรวจกับหรอก เพราะเขารู้จักกับตำรวจสน.นี้ (ประมาณว่าจะบอกว่าตัวเอง เส้นใหญ่ ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก)

               ด้วยเหตุนี้ ดิฉันจึงอยากถามท่าน ว่าดิฉันจะทำอย่างไรดีค่ะ จะต้องปล่อยให้คนๆ นี้ไปทำร้ายร่างกายคนอื่นอีกหรือค่ะ แล้วก็ปล่อยเขาลอยนวลไป  แล้วก็ สิ่งที่อยากจะรู้มากๆ ก็คือจริงๆ แล้วหมายจับเค้าใช้เวลากี่วันค่ะจึงจะออกได้ค่ะ

                                                 ขอบพระคุณมากค่ะ    

ไปถามที่ สน.วังทองหลวงกับนายร้อยเวรคนนั้นว่าเขาจะต้องใช้เวลานานเท่าไร และจะต้องดำเนินการอย่างไร หากเขาไม่ทำอะไร ก็ไปร้องที่กองปราบปราม หรือร้องเรียนไปที่จเรตำรวจ หรือไปร้อง ดีเอสไอ หรือมิฉะนั้นก็หาทนายความฟ้องร้องเสียเอง