เรียน คุณมีชัย
ดิฉันได้เคยค้ำประกันพี่ชายเมื่อปี 2546 ก่อนหน้านั้นเจ้าหนี้กับพี่ได้ทำธุรกิจด้วยกัน ซึ่งเงินเป็นของเจ้าหนี้ 5 แสนกว่าบาท พี่ชายทำธุรกิจได้ดอกและรายได้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็ได้ไปเกือย 3 แสนบาท และเมื่อธุรกิจที่ทำเริ่มมีปัญหาได้เงินบางเก็บเงินไม่ได้บ้างเจ้าหนี้ก็ทราบ แต่แล้วก็มีปัญหาเจ้าหนี้คิดว่าเงินที่ลงทุนจะไม่ได้คืนเลยเอาญาติที่เป็นตร. มาให้พี่ดิฉันทำสัญญาเงินกู้ และจะต้องผ่อนชำระเงินตามสัญญาเป็นเงิน1 หมื่นบาท/เดือน ซึ่งจริงๆฉันไม่อยากเซ็นค้ำประกัน แต่เค้าบองต้องเซ็น ดิฉันก็ต้องเซ็นเพราะกลัว เพราะฉันทำงานและมีเงินเดือน ซึ่งตอนนั้นฉันมีรายได้ 6-7 พันบาท/เดือน พ่อแม่ก็ไม่มีรายได้ และรายจ่ายในบ้านก็ต้องรับผิดชอบ แล้วทางแม่ได้คุยกับเจ้าหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็ดี ได้บอกว่ามีเท่าไหร่ก็ผ่อนได้ ซึ่งก็ผ่อน 3พัน ,2พัน ,1พัน ซึ่งบางเดือนอาจจะไม่มีก็ได้บอกเจ้าหนี้ เพราะรายได้และเงินบางส่วนก็ต้องเก็บไว้จ่ายค่าเทอม และเปิดเรียนเทอมใหม่ของหลาน แรกๆที่ผ่อนก็ไม่มีปัญหาหลังๆ เริ่มมีปัญหาปี50 เดือนที่2 แต่เงินที่่ผ่อนก็ดิฉันก็เค้าใจว่าเงินมันน้อง ซึ่งผ่อนไปด้แค่ 3 หมื่นบาท หลังจากนั้นเจ้าหนี้ก็บอกว้าไม่ต้องมาให้ แม่ก็เลยถามว่าทำไมถึงไม่รับเค้าบอกว่าญาติที่เป็นตร. ไม่ให้รับเพราะว่าเค้าฟ้องศาล ตอนนี้มีหมายศาลมาให้ยึดทรัพย์ แต่ดิฉันไม่มีทรัพย์สินนอกจากเงินเดือน ซึ่งเงินเดือน 12,xxx หักค่าใช้จ่ายต่างๆของบ. เงินเดือนออกสองงวด งวดละ 3-4 พันกว่าบาท/งวด แล้วอย่านี้จะยึดทรัพย์ได้ไหมค่ะ แล้วดิฉันแต่งงานแล้วแต่ทรัพย์สินเป็นของสามี และเค้าจะยึดทรัพย์สินได้ไหมค่ะ และดิฉันมีสมุดบัญชีซึ่งสามีเค้าเปิดเป็นชื่อดิฉันจะถูกยึดไหมค่ะ แล้วดิฉันจะต้องทำอย่างไรได้บ้าง รบกวนคุณมีชัยด้วยนะค่ะ