ขอเรียนสอบถามอาจารย์ ในปัญหาข้อกฎหมายดังนี้

             ตามสัญญาข้อจ้างทำของข้อ 1 ได้เขียนว่า "ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ยังมี "ระบบคอมพิวเตอร์" ที่ผู้รับจ้างได้ส่งมอบแล้วไว้ให้แก่ผู้ว่าจ้างบางส่วนหรือทั้งหมด ผู้รับจ้างต้องขนย้าย "ระบบคอมพิวเตอร์" กลับคืนไป ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา โดยผู้รับจ้างเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น"

           ข้อเท็จจริง ผู้ว่าจ้างได้บอกเลิกสัญญากับข้าพเจ้า โดยอ้างว่าข้าพเจ้าทำงานไม่เสร็จสิ้นตามกำหนด และงานใช้การไม่ได้ในส่วนที่ส่งมอบไปแล้วโดยเรียกค่าจ้างที่จ่ายให้ข้าพเจ้าคือ(ค่าคอมพิวเตอร์ที่ข้าพเจ้าส่งมอบไปให้)  และข้าพเจ้าก็ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างไปเหมือนกันโดยอ้างว่าได้ส่งมอบงานเรียบร้อยแล้วและขอเรียกค่าจ้างทั้งหมด ณ บัดนี้ยังมิได้มีการเจรจากัน

         ปัญหาที่จะสอบถามมีดังนี้

         1. เมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกแล้ว และข้าพเจ้าก็ได้บอกเลิกสัญญาเช่นเดียวกัน กรณีนี้ข้าพเจ้าสามารถเข้าไปเอาคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบแล้วและผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าคอมพิวเตอร์แล้ว คืนจากผู้ว่าจ้างได้หรือไม่   หากผู้ว่าจ้างไม่ยอมให้คนของข้าพเจ้าเข้าไปเอาจะผิดฐานบุกรุกหรือไม่ หากข้าพเจ้า/คนของข้าพเจ้าฝ่าฝืนเข้าไปโดยอ้างข้อสัญญาข้างต้น

         2. หากข้าพเจ้าเข้าไปเอาคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบให้ผู้ว่าจ้างแล้ว และผู้ว่างจ้างยังมิได้จ่ายเงินค่าคอมฯ กรณีนี้ ผู้ว่าจ้างไม่ยอมให้เข้าไปเอาโดยอ้างว่าต้องจ่ายค่าเสียหายที่เรียกร้องก่อนจึงจะยอมให้เข้าไป หากเข้าพเจ้าไม่ยอมจ่าย และให้คนเข้าไปเลยโดยอ้างข้อสัญญาข้างต้น จะผิดฐานบุกรุกหรือไม่ครับ

ขอความเห็นด้วยครับ  ตอนนี้กำลังเดือนร้อน เพราะต้องจ่ายเงินค่าคอมฯ ให้กับร้านค้าที่เราสั่งซื้อมา

ขอบพระคุณอาจารย์มากๆ ครับ

เอกวิทย์

1.- 2 เมื่อคุณส่งมอบของให้เขาไปแล้ว หากคุณบอกเลิกสัญญาและมีสิทะที่จะเอาของคืน คุณก็ได้แ ต่จะแจ้งให้เขาส่งมอบของคืนให้คุณ ถ้าเขาไม่คืนให้ภายในกำหนดเวลา คุณก็ต้องไปฟ้องศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้เขาคืนของหรือชำระค่าของแทน  อยู่ ๆ จะส่งคนไปขนของออกมาเองไม่ได้ ขืนเข้าไปเอาก็อาจเป็นการบุกรุก หรือลักทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ได้  ในทำนองเดียวกันถ้าเขาเรียกค่าเสียหายจากคุณ แล้วคุณไม่จ่าย อยู่ ๆ เขาส่งคนเข้าไปขนของในบ้านคุณ เขาก็อาจผิดอย่างเดียวกัน