เนื่องจากตอนอายุ 16 โดนจับคดีสูดดมสารระเหยกับเพื่อนแต่ยังเป็นเยาวชนศาลเลยว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยครับแต่เพื่อนศาลสั่งรอลงอาญา 2 ปี พอมาตอนอายุ 23 มีเรื่องทะเละวิวาศกับคนอื่น โดนแจ้งข้อหาพยามฆ่า แต่ต่อมาศาลยกฟ้องครับเนื่องจากไม่ผิดครับ ตอนนี้อายุ 32 แล้วอยากจะรับราชการกับทางกรมราชทัณฑ์ครับ ถ้าโดนตรวจสอบประวัติจะโดนตัดสิทธิหรือเปล่าครับ
ผมไปเจอข้อมูลจาก web ของ กพ มีคนที่เขาเคยโดนคดียาเสพติครับ แล้วทาง กพ. ตอบมาแบบนี้ข้างล่างนี้ครับ ขอให้อาจารย์ช่วยดูหน่อยครับว่ามันจริงหรือเปล่าครับ
คำตอบของทาง กพ
ขอเรียนว่าตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 นั้น ให้ล้างมลทินแก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 และได้พ้นโทษก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีนั้น ๆ ดังนั้นกรณีนี้ถือว่าบุคคลดังกล่าวไม่เคยถูกลงโทษจำคุกมาก่อน และไม่ตกเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 30 (10) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ที่บัญญัติว่าผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือนต้องไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำผิดทางอาญา ดังนั้นจึงสามารถสมัครเข้ารับราชการได้ อย่างไรก็ตาม การที่ผู้นั้นจะเข้ารับราชการได้หรือไม่นั้น เป็นอำนาจของเจ้าสังกัดเป็นผู้พิจารณา โดยตามมาตรา 30 (7) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน บัญญัติว่าต้องไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม ซึ่งต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป ว่าพฤติการณ์ดังกล่าวจะถือเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีหรือไม่ สำหรับกรณีในเรื่องผู้ติดยาเสพติด (ไม่รวมผู้ค้ายาเสพติด) นั้น ตามมติ ค.ร.ม. ที่ นร.0505/ว38 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้โอกาสผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติด โดยให้มีสิทธิที่จะสมัครบรรจุเป็นข้าราชการได้ดังเช่นคนทั่วๆ ไป และห้ามอ้างเหตุดังกล่าวมาลิดรอนสิทธิในการเข้าทำงาน อันเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม