ผมไปรับจำนองที่ดินโฉนดหลังแดง(อีก 7 ป๊ โอนได้) ต่อจากผู้รับจำนองเดิม จำนวนเงินต้นอัตราดอกเบี้ยเดิม ภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ออกขายทอดตลาดแล้ว รายละเอียด

             ลูกหนี้เป็นหนี้ธนาคารโดยจำนองที่ดิน ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นประกัน ต่อมาได้มีการฟ้องร้องคดี ลูกหนี้ไปทำสัญญาประนอมหนี้โดยขอผ่อนชำระหนี้ ต่อมาผิดนัดอีกธนาคารจึงฟ้องตามสัญญาประนอมหนี้ และศาลมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ออกขายทอดตลาดจนกว่าจะชำระหนี้ครบถ้วน ตอนนี้อยู่ระหว่าดำเนินการ 

             ส่วนที่ดินแปลงที่ผมรับจำนองเป็นที่ดินโฉนดหลังแดงอยู่ที่ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ดินที่มีบ้านของลูกหนี้ และลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ดินแปลงที่ผมรับจำนอง ผมคาดว่าที่ดินที่จังหวัดนนทบุรี ราคาไม่เพียงพอชำระหนี้ประกอบกับลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่พอจะชำระหนี้ได้ คำถาม

              1. ผมทราบมาว่าที่ดินหลังแดง ไม่อยู่ในบังคำคดี จะเอาไปขายทอดตลาดได้ต้องรอให้พ้น 10 ปีก่อน (เหลืออีก 7 ปี) ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

              2. การกระทำของผมเข้าข่ายฉ้อโกงเจ้าหนี้หรือไม่ ผมไม่ทราบว่าเขาถูกศาลสั่งยึดทรัพย์แล้ว เขามาบอกว่าเขาไม่ไว้ใจผู้รับจำนองรายเดิม จึงมาขอความช่วยเหลือจากผม

             3. ผมมีทางจะได้เงินคืนหรือไม่ ช่วยแนะนำด้วยครับ

             4. ถามเป็นความรู้ หากผมไม่ไปรับจำนองต่อ ผู้รับจำนองรายเดิม มีสิทธิได้รับเงินคืนหรือไม่ อย่างไร

              หาก อจ. มีคำแนะนำ หรือ ความเห็นที่เป็นประโยชน์สำหรับผม ขอความเมตตา อจ. ช่วยแนะนำด้วยครับ

              ขอบพระคุณ อจ. เป็นอย่างสูง ขอบคุณครับ

1. เป็นอย่างที่คุณรู้มานั่นแหละ  ก็ในโฉนดเขาก็ประทับตัวใหญ่ ๆ เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าห้ามโอน

2. ถ้าคุณรับจำนองไว้จริง ก็ไม่ได้เป็นการโกงเจ้าหนี้ แต่ถ้าไม่ได้มีการกู้ยืมเงิน แต่ไปจดจำนองเพื่อให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ก็อาจเข้าข่ายโกงเจ้าหนี้ได้

3. ถ้าคุณให้เขากู้จริง คุณก็ต้องมีสิทธิได้เงินคืน เว้นแต่เขาจะไม่มีให้

4. ใครรับจำนองไว้ก็ย่อมมีสิทธิได้เงินคืนเสมอแหละ  ไม่เข้าใจว่าสงสัยอะไร